ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 52.94 จุด กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค-การเงินหนุนตลาด

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (22 เม.ย.) โดยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 หลังจากวันหยุดยาวในเทศกาลอีสเตอร์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและหุ้นกลุ่มการเงิน

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,328.60 จุด เพิ่มขึ้น 52.94 จุด หรือ +0.64%

ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวขึ้น 1.2%

หุ้นเจ เซนส์บิวรี (J Sainsbury) ปรับตัวขึ้น 2.3% หลังจากเจ.พี. มอร์แกนปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย ส่วนหุ้นเทสโก้ (Tesco) ซึ่งเป็นเครือซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ที่สุดของอังกฤษปรับตัวขึ้น 1.5%

หุ้นกลุ่มการเงินขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 1.2%, หุ้นกลุ่มเหมืองแร่เพิ่มขึ้น 0.9% หลังราคาทองแดงในตลาดลอนดอนพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ และหุ้นกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 โดยเพิ่มขึ้นอีก 1%

อย่างไรก็ตาม หุ้นดีซีซี (DCC) ร่วงลงมากที่สุดในตลาด หลังจากบริษัทด้านบริการการขายและการตลาดรายนี้ประกาศขายธุรกิจด้านสุขภาพให้กับบริษัทไพรเวตอิควิตี้ Investindustrial Advisors ส่งผลให้ราคาหุ้น DCC ร่วงลง 3.6%

แนวโน้มเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรได้รับแรงกดดันครั้งใหญ่ หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของสหราชอาณาจักรในปี 2568 ลงรุนแรงที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจหลักในยุโรป โดยลดจาก 1.6% เหลือ 1.1% เนื่องจากความเสี่ยงจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษ ได้หารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ โดยพูดคุยเกี่ยวกับการค้าทวิภาคีในประเด็นต่าง ๆ

อังกฤษหวังว่าจะสามารถเจรจาข้อตกลงกับทรัมป์ได้ หลังจากที่เขาเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอังกฤษส่วนใหญ่ในอัตรา 10% และเก็บภาษี 25% สำหรับรถยนต์ เหล็ก และอะลูมิเนียม

ในวันพุธนี้ (23 เม.ย.) นักลงทุนจะจับตาถ้อยแถลงของ แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และ ซาราห์ บรีเดน รองผู้ว่าการฯ ที่จะกล่าวสุนทรพจน์ในงานที่กรุงวอชิงตัน รวมถึงการปราศรัยของ ฮิว พิลล์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ BoE ที่เมืองลีดส์

ตลาดการเงินกำลังประเมินว่า มีโอกาส 100% ที่ BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 8 พ.ค.