สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 เม.ย. 68)
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.40/41 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดที่ ระดับ 33.35/65 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.34 - 33.65 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทเคลื่อนไหวอ่อนค่า ทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค จากปัจจัยราคาทองคำที่ย่อลง ทำให้เงินบาทในช่วงเช้าอ่อนค่า ไปค่อนข้างมาก และในช่วงใกล้ปิดตลาดเงินบาทค่อย ๆ กลับมา สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามคืนนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของทั้งฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป และรายงาน สรุปภาวะเศรษฐกิจ จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.20 - 33.50 บาท/ดอลลาร์ * ปัจจัยสำคัญ - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 141.83/86 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 142.00 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1426/1427 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1370 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,153.77 จุด เพิ่มขึ้น 9.72 จุด (+0.85%) มูลค่าซื้อขาย 38,239.64 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,850.44 ล้านบาท - นายกสมาคมค้าทองคำ มองสถานการณ์ราคาทอง (96.5%) ขายปลีกในประเทศที่ปรับตัวลงมากในวันนี้เกิดจากแรงเทขาย ทำกำไรของกองทุน หลังจากที่ราคาทองในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา แต่ทิศทางขาลงน่าจะเป็นปรับตัวลงมาพักฐานในช่วงสั้น ๆ และปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกในระยะกลางและระยะยาว เนื่องจากมีปัจจัยหนุนสำคัญใน เรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเร็ววันนี้ - นักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป ระบุว่า จากโครงสร้างราคาทองคำปัจจุบันยังคงแสดงภาพของแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน โดย มีแนวรับสำคัญที่ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากเกิดการพักตัว ก็จะเป็นเพียงการพักตัวในแนวโน้มขาขึ้น และมีแนวรับระยะสั้นภายใน สัปดาห์ ที่ 3,285 หรือ 3,225-3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คิดเป็นราคาทองคำไทย ประมาณ 51,700 หรือ 50,800 บาท ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ระดับ 3,485 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 3,552 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คิดเป็นราคาทองคำไทย 54,500 และ 55,300 บาท ตามลำดับ - อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศ ไทย ในไตรมาสแรกของปี 2568 (ม.ค.-มี.ค.68) จำนวน 272 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 47,033 ล้านบาท - ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวในวันนี้ว่า มาตการภาษีนำเข้าและสงครามการค้าบั่นทอนสิทธิและผลประโยชน์อันชอบ ธรรมของทุกประเทศ ทำลายระบบการค้าพหุภาคี และส่งผลกระทบต่อระเบียบเศรษฐกิจโลก - แบงก์ ออฟ อเมริกา (Bank of America - BofA) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียในปี 2568 โดยเตือนว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และแรงกดดันด้านภาษีศุลกากร จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของภูมิภาคอย่าง หนัก - ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขามินนีแอโพลิสกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับขึ้นหรือลด อัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และผลกระทบที่อาจ เกิดขึ้นต่อเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโดยรวม