World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกในวันนี้ (23 เม.ย.) ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความคาดหวังเชิงบวกว่า ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะคลี่คลายลง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า ภาษีศุลกากรขั้นสุดท้ายสำหรับสินค้าส่งออกของจีนไปยังสหรัฐฯ จะไม่สูงถึง 145% อย่างไรก็ตาม เขากล่าวเสริมว่าภาษีศุลกากรจะไม่ใช่ 0%


-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคาร (22 เม.ย.) ว่า เขาไม่มีแผนที่จะปลด เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกจากตำแหน่ง แต่เขายังคงกดดันเฟดให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

ทรัมป์อ้างว่าราคาสินค้าต่าง ๆ ในสหรัฐฯ ปรับตัวลง และไม่มีความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในสหรัฐฯ โดยเขากล่าวกับผู้สื่อข่าวในห้องประชุมรูปไข่ว่า ราคาทุกอย่างกำลังลดลง สิ่งเดียวที่ไม่ลดลงแต่ไม่เพิ่มขึ้นมากนักก็คืออัตราดอกเบี้ย


-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) เมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) โดยคาดว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 2.8% และ 3.0% ในปี 2568 และ 2569 ตามลำดับ จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่ระดับ 3.3% สำหรับปี 2568 และ 2569 โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐ

ตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจที่ระดับ 2.8% และ 3.0% ในปี 2568 และ 2569 ถือว่าต่ำกว่าอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยรอบ 20 ปีระหว่างปี 2543-2562 ที่ระดับ 3.7%


-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตปรับตัวลงสู่ระดับ -13 ในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -6 จากระดับ -4 ในเดือนมี.ค.

ดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตในเขตริชมอนด์ยังคงอยู่ในภาวะหดตัว


-- สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ แสดงความหวังว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า

เบสเซนต์กล่าวว่า เขาเชื่อว่าแนวโน้มการคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน จะสร้างความผ่อนคลายแก่โลกและตลาด


-- คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน ปรับตัวลง 2.2 จุด สู่ระดับ -16.7 ในเดือนเม.ย. จากระดับ -14.5 ในเดือนมี.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -15.5

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ EU ปรับตัวลง 2.1 จุด สู่ระดับ -16.0 ในเดือนเม.ย.


-- สเตฟาน แอนกริค นักเศรษฐศาสตร์จากมูดี้ส์ อนาลิติกส์ ระบุในรายงานว่า นักลงทุนญี่ปุ่นได้ทำการเทขายพันธบัตรต่างชาติออกมาบางส่วน เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ แต่ก็ไม่มากพอที่จะเป็นสาเหตุทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

"ข้อมูลรายสัปดาห์จากกระทรวงการคลังญี่ปุ่นระบุว่า นักลงทุนรายใหญ่ของญี่ปุ่นได้เทขายสุทธิพันธบัตรต่างชาติระยะยาว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-12 เม.ย. โดยมียอดขายพันธบัตรสุทธิรวม 3.1 ล้านล้านเยน หรือราว 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่วงเงินดังกล่าวไม่มากพอที่จะอธิบายสาเหตุการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ" รายงานระบุ

-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะเปิดเผยในวันนี้ (23 เม.ย.) ได้แก่ เกาหลีใต้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย., ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จาก S&P Global, ญี่ปุ่นเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จาก Jibun Bank, อินเดียเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จาก HSBC, สิงคโปร์เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค., ฝรั่งเศสเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จาก HCOB, เยอรมนีเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จาก HCOB, อินโดนีเซียเปิดเผยธนาคารกลางอินโดนีเซียแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, อียูเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จาก HCOB, อังกฤษเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จาก S&P Global,

ด้านสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จาก S&P Global, ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในช่วงเช้าวันที่ 24 เม.ย.ตามเวลาประเทศไทย