สมาคมนักวางแผนการเงินไทย เปิดแผนงานปี 68 เดินหน้าจับมือพันธมิตร ปั้นนักวางแผนการเงิน และที่ปรึกษาการเงินเพิ่ม ยันเป็นเรื่องจำเป็นของทุกคน หากต้องการมีอิสรภาพทางการเงินและความมั่นคง
นายวิโรจน์ ตั้งเจริญ นายกสมาคมนักวางแผนการเงินไทย เปิดเผยถึงทิศทางและแผนงานของสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ปี 2568 ว่าจะมุ่งส่งเสริมและเพิ่มจำนวนนักวางแผนการเงิน CFP และเดินหน้าให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการวางแผนการเงินให้กับคนไทยทุกช่วงวัย โดยเริ่มตั้งแต่ระดับอุดมศึกษาไปจนถึงวัยเกษียณ ดังนี้
1.1 ทำโครงการ Road to CFP Professional เส้นทางสู่อาชีพนักวางแผนการเงิน สนับสนุนให้มีหลักสูตรการเรียนการสอนเรื่องวางแผนการเงินในมหาวิทยาลัย เพื่อให้นักศึกษาได้รับคุณวุฒิที่ปรึกษาการเงิน AFPT ซึ่งเป็นคุณวุฒิขั้นต้นของการเป็นนักวางแผนการเงิน และเป็นมาตรฐานที่สถาบันการเงินให้การยอมรับ โดยมอบทุนสอบให้กับนักศึกษา ใน 8 มหาวิทยาลัย
1.2 ร่วมกับสมาชิกนิติบุคคลของสมาคมฯ เร่งสร้างนักวางแผนการเงิน CFP และที่ปรึกษาการเงิน AFPT เพื่อรองรับความต้องการด้านการวางแผนการเงินในกลุ่มลูกค้าสถาบันการเงิน เพื่อให้ได้รับบริการจากเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้เรื่องการวางแผนการเงินแบบองค์รวม (Holistic Advisory) เช่น ร่วมมือกับธนาคารทิสโก้ ยกระดับการให้คำแนะนำด้านการวางแผนการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญระดับสากลที่มีคุณวุฒินักวางแผนการเงิน CFP และที่ปรึกษาการเงิน AFPT เปลี่ยนมุมมองด้านการวางแผนการเงินว่าเป็นแค่การลงทุนเพียงด้านเดียว และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินเป็นรายตัวให้ตั้งเป้าหมายและวางแผนการเงินแบบองค์รวม ครอบคลุมทั้งด้านการวางแผนการลงทุน ประกันภัย การวางแผนภาษีและการวางแผนส่งต่อมรดก การวางแผนก่อน และหลังเกษียณ
2.1 ทำโครงการ Workshop การวางแผนการเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือน"Happy Salaryman มนุษย์เงินเดือน เงินดี มีสุข" ส่งเสริมพนักงานให้มีความรู้และเริ่มลงมือตั้งเป้าหมาย สามารถวางแผนการเงินให้มีความมั่นคงทางการเงินและพร้อมเกษียณได้อย่างมีความสุข โดยเริ่มต้นจากพนักงานในองค์กร และข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข. ที่แม้มีรายได้ประจำ แต่เศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงหลายปัจจัย จำเป็นต้องวางแผนการเงิน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินในแต่ละช่วงชีวิต
2.2 ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ความรู้และสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินสำหรับคนวัย 50+ เพื่อเตรียมพร้อมเกษียณอย่างมั่งคั่งมั่นคงและมีความสุข
2.3 ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยแพร่ความรู้เรื่องการวางแผนการเงิน ผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง นอกจากนี้ยังเตรียมแผนส่งเสริมบุคลากรให้มีความรู้เรื่องการวางแผนการเงินหลังเกษียณ โดยเตรียมเปิดหลักสูตร Post Retirement Specialist เพื่อวางแผนการเงินและชีวิตหลังเกษียณรองรับการเข้าสู่สังคมสูงวัยของคนไทย
ขณะที่ราคาสินค้าและบริการต่าง ๆ ล้วนปรับตัวขึ้นทุกปี รวมทั้งราคาที่อยู่อาศัย ซึ่งถือเป็นปัจจัย 4 โดยข้อมูลอ้างอิงจากดัชนีราคาที่อยู่อาศัย และดัชนีราคาที่ดิน ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ย้อนหลัง 10 ปี พบว่าปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 28-46%
"เพราะเงินเรามีจำกัด ดังนั้นทุกคนที่เป็นผู้มีรายได้ จำเป็นต้องมีการวางแผนทางการเงิน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงิน สร้างความมั่นคงในชีวิต และนำไปสู่การมีอิสรภาพทางการเงิน และมีความมั่งคั่ง มั่นคง สามารถใช้ชีวิตในยามเกษียณได้อย่างมีคุณภาพ นักวางแผนการเงินจะช่วยทำโรดแมป เพื่อช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายการเงินในแต่ละช่วงเวลาได้" นายวิโรจน์กล่าว
ทั้งนี้ จากผลสำรวจผู้ใช้บริการใน 15 ประเทศทั่วโลก พบว่า 84% ของลูกค้าที่ใช้บริการ เห็นว่าการใช้บริการกับนักวางแผนการเงิน CFP ให้ประโยชน์คุ้มค่าเกินกว่าค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้นักวางแผนการเงิน
1. Fixed fee คิดค่าธรรมเนียมเป็นจำนวนเงินต่อแผนต่อปี
2. ไม่มีค่าธรรมเนียม แต่จะได้รับส่วนแบ่งจากค่าธรรมเนียมของผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าลงทุน หรือซื้อจากบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์
3. คิดค่าธรรมเนียมแบบผสม เช่น คิดค่าแผน 5,000 บาท/ปีจากลูกค้า และได้รับส่วนแบ่งจากค่าธรรมเนียมของผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าลงทุนหรือซื้อจากบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์
4. คิดค่าธรรมเนียมตามมูลค่าทรัพย์สิน เช่น 3% ของมูลค่าทรัพย์สินที่แนะนำต่อปี
ที่สำคัญ ไม่ว่านักวางแผนการเงินจะคิดค่าธรรมเนียมแบบใด ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงวิธีการคิดค่าธรรมเนียมอย่างชัดเจนก่อน และลูกค้ามีสิทธิ์ที่จะไม่ใช้บริการ หากไม่ต้องการจ่ายค่าธรรมเนียมตามวิธีที่นักวางแผนการเงินคิด เนื่องจากเป็นจรรยาบรรณที่นักวางแผนการเงิน CFP ต้องปฏิบัติ
"2 ปัจจัยนี้ ทำให้คนส่วนใหญ่ยังไม่กล้าใช้บริการนักวางแผนการเงิน CFP สมาคมฯ จึงอยากเชิญชวนให้ลองคุยกับนักวางแผนการเงินก่อน จะใช้หรือไม่ใช้บริการค่อยตัดสินใจ แต่อย่าด่วนตัดสินว่าคุณยังไม่พร้อมกับการวางแผนการเงิน เพราะการวางแผนการเงิน เริ่มยิ่งเร็วยิ่งดี ทำให้วางแผนชีวิตได้ตามเป้าและมองเห็นชีวิตที่คุณต้องการได้ชัดเจนขึ้น"
ปัจจุบันสมาคมฯ อยู่ระหว่างสำรวจว่าคนไทยมีการวางแผนการเงินจำนวนมากน้อยเท่าไร แต่เบื้องต้นประเมินว่าอยู่ที่ประมาณ 3% ของจำนวนประชากร เพราะคนไทยยังมีความเข้าใจผิดอยู่ว่า ต้องมีเงินมาก ๆ ถึงจะปรึกษาวางแผนทางการเงินได้
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีนักวางแผนการเงิน CFP จำนวน 703 คน สูงเป็นอันดับที่ 19 จาก 26 ประเทศ ตามหลังสิงคโปร์ ที่อยู่อันดับที่ 18 โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 18.5% เพิ่มขึ้นสุทธิ 110 คน โดยเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในโลก เพราะคนไทยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เริ่มให้ความสนใจ และเรียนรู้เรื่องการวางแผนทางการเงินเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นทิศทางที่ดี