
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งพักตัว ได้รับแรงกดดันจากสภาพแวดล้อมตลาดหุ้นสหรัฐปรับฐานลงมาเฉลี่ย 2.5% จากความกังวลความอิสระในการทำหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กดดันเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ให้ลดดอกเบี้ย
นอกจากนี้ การเจรจาการค้าของแต่ประเทศที่เข้าเจรจากับสหรัฐก่อนหน้านี้ อาทิ ญี่ปุ่น ยังไม่เห็นความคืบหน้าชัดเจน ขณะเดียวกันการเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐที่เคยระบุว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 23 เม.ย.ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เป็น Sentiment ลบในระยะสั้น แต่อย่างน้อยก็ยังไม่มีการยกเลิกการเจรจา ขณะที่ทิศทาง Fund Flow ยังไม่เห็นสัญญาณไหลเข้าตลาดหุ้น
กลยุทธ์การลงทุนแนะเก็งกำไรระยะสั้นหุ้นปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ CPF ประกาศลงทุน CPP ซึ่งมองว่าดีลนี้จะเป็นบวกต่อกำไรปีนี้ นอกจากนี้ภาพหุ้นที่ปรับลงจากภาษีตอบโต้จากก่อนหน้าลงแรง การย่อลงมาเป็นจุดสะสมได้ อาทิ WHA เป็นต้น
โดยให้กรอบแนวรับ 1,125 และแนวต้าน 1,140 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (21 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,170.41 จุด ลดลง 971.82 จุด หรือ -2.48%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,158.20 จุด ลดลง 124.50 จุด หรือ -2.36% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,870.90 จุด ลดลง 415.55 จุด หรือ -2.55%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ 34,111.14 จุด ลดลง 168.78 จุด หรือ -0.49% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 21,303.51 จุด ลดลง 91.63 จุด หรือ -0.43% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,289.17 จุด ลดลง 2.26 จุด หรือ -0.07%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 เม.ย.) 1,134.71 จุด ลดลง 16.24 จุด (-1.41%) มูลค่าการซื้อขาย 32,467.36 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (21 เม.ย.) 2,263.24 ล้านบาท
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.(21 เม.ย.) ลดลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ 2.47% ปิดที่ 63.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 เม.ย.) 3.04 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 33.27 อ่อนค่าสวนทางภูมิภาค จับตาคืบหน้าเจรจาสหรัฐ-“ทรัมป์” ขู่ปลดปธ.เฟด
– เลื่อนเจรจาการค้าไทยสหรัฐ 23 เม.ย.นี้ ‘พิชัย’ ยกเลิกใบลา ครม. ยังไม่เดินทางไปสหรัฐ หลังนายกฯ บอกได้คิวแล้วคาดรอสหรัฐคอนเฟิร์มวันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ด้านกระทรวงพาณิชย์ ‘จีน’ ออกแถลงการณ์เตือน “จีนจะตอบโต้ ทุกประเทศที่ร่วมมือกับสหรัฐ ในลักษณะที่กระทบต่อผลประโยชน์ของจีน”
– สมาคมผู้ค้าปลีกไทย หวั่นปัจจัยลบสงครามการค้า สินค้าจีนโอเวอร์ซัพพลายทะลักเข้าไทยกระทบเอสเอ็มอี ฉุดเศรษฐกิจไทย ค้าปลีกปี 2568 ชะลอตัว โต 3.4% แนะรัฐเร่งฟื้น ท่องเที่ยว เสนอโปรเจกต์ “Instant tax refund” ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ให้นักท่องเที่ยวช้อป 3,000 บาทขึ้นไป หนุนภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เขตปลอดภาษีสินค้าไลฟ์สไตล์ หวังเม็ดเงินสะพัดระดับแสนล้าน ดันไทยชอปปิงพาราไดซ์
– รัฐบาลจัดทัพผู้บริหาร 10 รัฐวิสาหกิจ หลังทยอยครบวาระและลาออก “รฟม.-บขส.-บวท.-เอ็กซิมแบงก์-กฟผ.กนอ.-กยท.” เข้าสู่กระบวนการสรรหา ทยอยแสดงวิสัยทัศน์ เผยสังกัดคมนาคมรื้อใหญ่ หลัง “กีรติ” ยื่นใบลาออกเอ็มดี ทอท.เปิดทาง รัฐบาลหาผู้ตอบโจทย์ จับตาเปลี่ยนผู้อำนวยการ การท่าเรือฯ “เบญจรงค์-สิทธิกร” ชิง เอ็กซิมแบงก์ “2 รองผู้ว่า” ชิงเก้าอี้ กฟผ.
– “เอกนัฏ” เดินหน้ายกเลิกการรับรองมาตรฐานเหล็ก IF เหตุเป็นเตาแบบระบบเปิดสร้างมลภาวะฝุ่น-ก๊าซพิษ เล็งยกเลิก มอก. หวั่นคุณภาพต่ำกระทบอุตสาหกรรมเหล็กไทย ชูเทคโนโลยีที่ผลิตเหล็กด้วยเตาอาร์คไฟฟ้า
– ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือบอร์ด ททท. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปรับแผนการท่องเที่ยวครึ่งหลังของปี 68 ใหม่หลังหารือกับนายกรัฐมนตรีแล้วพบว่านักท่องเที่ยวเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง ใต้หวัน เวียดนาม เกาหลีใต้ เดินทางเที่ยวไทยลดลงเฉลี่ย 17% ทำให้กระทรวงท่องเที่ยวฯต้องหันมาทำตลาดที่เน้นมูลค่ารายได้จากการใช้จ่ายมากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยว พร้อมปรับรายได้รวมจากการท่องเที่ยวลดลงเหลือ 3 ล้านล้านบาท มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 ล้านล้านบาท นักท่องเที่ยวไทย 1 ล้านล้านบาท
หุ้นเด่นวันนี้
– BDMS (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 30.00 บาท คาดกำไรไตรมาส 1/68 ยังเติบโตได้ทั้ง q-q และ y-y จากการเติบโตของรายได้ผู้ป่วยต่างชาติและชาวไทย รวมทั้งผลกระทบจากเดือนรอมฎอนที่ไม่มากนัก ส่วนภาพรวมปีนี้คาดกำไรเติบโตราว +10%y-y ส่วนภาพระยะยาวมีแนวโน้มเชิงบวกจากแผนการเพิ่มจำนวนเตียงที่มากขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายเทียบเคียงใกล้ระดับ -2.0SD ถือว่าเป็นระดับที่น่าทยอยสะสม
– OR (คิงสฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 14.80 บาท แผนกลยุทธ์แย่งชิง market share กลับคืนมาด้วยการเปิด 100 ปั๊มใหม่เน้นพื้นที่ศักยภาพ ปรับปรุงปั๊มเก่าและจัดแคมเปญการตลาดดึงดูดลูกค้า โดยธุรกิจ Mobility คาดปริมาณขายเพิ่มขึ้นขณะที่อัตรากำไรต่อหน่วยฟื้นจากแรงกดดันของรัฐลดลงหลังสถานะกองทุนน้ำมันดีขึ้น ส่วนธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้นตามยอดขายกาแฟและไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษจากปิด Texas Chicken 442 ล้านบาท ปี 68 ตั้งงบลงทุน 1.89 หมื่นล้านบาทรองรับแผนกลยุทธ์ข้างต้นรวม M&A และ innovation&new business อ้างอิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 9.7 พันล้านบาท +27%YoY และ 1.09 หมื่นล้านบาท +12%YoY
– AURA (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 20.10 บาท คงมุมมองเชิงบวกจากแผน 3 ปีปรับเป้าสินเชื่อธุรกิจ “ทองมาเงินไป” เพิ่มขึ้นจาก 6,500 ล้านบาทเป็น 7,500 ล้านบาท ตั้งเป้ายาวปี 70 พอร์ตสินเชื่อ 2 หมื่นล้านบาทจากขยายสาขาต่อเนื่องเป็น 1,000 สาขาสำหรับธุรกิจ gold finance และการจัดหาเงินทุนเพิ่มทั้ง syndicate loan ครึ่งปีแรก และการออกหุ้นกู้ครึ่งปีหลัง แหล่งเงินทุนเพิ่มขึ้นและหลากหลายหนุนโต อีกทั้งมีโอกาสได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจากความแข็งแกร่งเงินทุนหมุนเวียน ขณะที่ผู้ประกอบการรายเล็กอาจหายไปจากการขาดเงินทุน มองธุรกิจ gold trading ได้ประโยชน์ขึ้นค่ากำเหน็จ 300 บาทเห็นผลบวกในไตรมาส 3/68
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 68)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย