
หุ้น BKA ปิดเทรดวันแรกพุ่ง 36.67% มาอยู่ที่ 2.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.66 บาท จากราคา IPO ที่ 1.80 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 572.58 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.40 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.18 บาท
นายพชร ธนวงศ์เกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป [BKA] เปิดเผยว่า วันนี้ (22 เม.ย. 68) บริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก นักลงทุนเชื่อมั่นต่อพื้นฐานของธุรกิจส่งผลให้ราคาหุ้นสามารถยืนเหนือราคา IPO 1.80 บาท
ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการผลักดันองค์กรสู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจบริการซื้อขายบ้านมือสองตกแต่งใหม่ ภายใต้รูปแบบธุรกิจ บ้านแต่ง (Flipping), ธุรกิจนายหน้าซื้อ-ขาย อสังหาริมทรัพย์ (ธุรกิจบ้านฝาก) และธุรกิจซื้อบ้านมือสองมาปรับปรุงเพื่อขาย (ธุรกิจบ้านตัด)
วันนี้ BKA เป็นที่หนึ่งเรื่องบ้านมือสอง และเป็นบริษัทจดทะเบียนรายแรกในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบดังกล่าว สอดรับวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำในธุรกิจบริการซื้อขายบ้านมือสอง และทรัพย์สินรอการขายของสถาบันการเงิน (NPA) ตกแต่งใหม่ในประเทศไทย ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้บริการ การซื้อขายบ้านมือสอง และบริการรีโนเวทบ้าน ให้มีคุณภาพดี มีมาตรฐาน ครอบคลุมในประเทศไทย ภายใต้การดำเนินงานที่เป็นเลิศ การบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม และความพึงพอใจให้กับทั้งลูกค้า คู่ค้า และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปขยายพอร์ตการให้บริการบ้านแต่ง (Flipping) เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบ้านมือสองที่มีศักยภาพการเติบโตจากสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์(AMC) มีทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ในระบบจำนวนมาก และเป็นสินค้าบ้านมือสองทำเลดี ราคาคุ้มค่าต่อการลงทุน โดยการเจาะตลาดในพื้นที่กรุงเทพชั้นในเพิ่มขึ้น โดยยังคงมุ่งเน้นสินค้าบ้านเดี่ยวมือสองตกแต่งใหม่ ระดับราคาตั้งแต่ 5-10 ล้านบาทเป็นหลัก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความมั่นคงทางการเงิน ซึ่ง Rejection Rate ในกลุ่มนี้จึงค่อนข้างอยู่ระดับต่ำ จึงมองว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีดีมานด์สูงส่งผลให้บริษัท มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ บริษัท จะนำเงินที่ได้ไปเสริมศักยภาพด้านการพัฒนาธุรกิจ Property Technology (Prop Tech) โดยสร้าง Platform ตัวกลางในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ จากการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการค้นหาข้อมูลให้แก่ผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน และเทคโนโลยีระบบเสมือนจริง (Virtual Reality) มาใช้ในการแนะนำบ้านให้กับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านได้เห็นภาพบ้านเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ ยิ่งสร้างโอกาสการเติบโตให้กับบริษัทในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ
“Business Model ธุรกิจของ BKA ไม่ใช่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยตรง แต่เป็นธุรกิจการให้บริการปรับปรุงบ้านมือสองเพื่อขาย “ธุรกิจบ้านแต่ง” หรือ “Flipping” ซึ่งรูปแบบธุรกิจเป็นการวางเงินประกัน เพื่อปรับปรุง และขายบ้าน โดยไม่ต้องลงทุนซื้อบ้านทั้งหลัง ทำให้บริษัทมีส่วนต่างของผลตอบแทน และมาร์จิ้นสูง เมื่อเทียบกับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องลงทุนตั้งแต่การซื้อที่ดินและก่อสร้าง”นายพชร กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 68)
Tags: BKA, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป, พชร ธนวงศ์เกษม, หุ้นสามัญ, หุ้นไทย