ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ (21 เม.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยนเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มส่งออก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 34,279.92 จุด ลดลง 450.36 จุด หรือ -1.30%
หุ้นที่ปรับตัวลงในวันนี้นำโดยหุ้นกลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหิน รวมถึงกลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่ช่วงกรอบบนของระดับ 140 เยน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า สหรัฐฯ อาจส่งสัญญาณกดดันให้ญี่ปุ่นเข้ามาดูแลเสถียรภาพค่าเงินเยนที่อ่อนค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เมื่อสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และคัตสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น มีกำหนดพบปะกัน ณ กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาต่อรองด้านภาษีศุลกากรระหว่างสองประเทศ
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดหุ้นโตเกียว ซึ่งปรับตัวลดลงทันที ปิดฉากการบวกติดต่อกันสองวันทำการก่อนหน้า โดยการแข็งค่าขึ้นของเงินเยนได้สร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อหุ้นกลุ่มส่งออก เนื่องจากกำไรในต่างประเทศเมื่อแปลงกลับเป็นเงินเยนจะมีมูลค่าลดลง
นอกจากกลุ่มส่งออกแล้ว หุ้นกลุ่มพลังงานก็ปรับตัวลดลงตามทิศทางราคาสัญญาน้ำมันดิบสำคัญของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงก่อนหน้า นักวิเคราะห์ชี้ว่า นักลงทุนจำนวนมากยังคงชะลอการลงทุน เพื่อรอดูความชัดเจนก่อนที่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์นี้ ทั้งในสหรัฐฯ และญี่ปุ่น
"แม้ผลประกอบการไตรมาสสิ้นสุดเดือนมี.ค.อาจไม่ได้เลวร้าย แต่การที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดความกังวลว่ากำไรของบริษัทในกลุ่มผู้ส่งออกอาจลดต่ำลง" โทชิคาซุ โฮริอุจิ นักกลยุทธ์ด้านตราสารทุนจากบริษัทหลักทรัพย์ IwaiCosmo กล่าว
