สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (14 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ได้คงตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมัน และปรับเพิ่มคาดการณ์อุปทานน้ำมันของสหรัฐฯ ในปีนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.32 ดอลลาร์ หรือ 1.67% ปิดที่ 77.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.35% ปิดที่ 79.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
EIA เปิดเผยรายงานแนวโน้มพลังงานในระยะสั้น (Short-Term Energy Outlook) โดยระบุว่า อุปสงค์น้ำมันในสหรัฐฯ จะยังคงอยู่ที่ระดับ 20.5 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2568 และ 2569 และคาดว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 13.55 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2568 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 13.52 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ EIA คาดการณ์ว่า ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ ราคาน้ำมันจะถูกกดดันจากภาวะอุปทานน้ำมันทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นแซงหน้าอุปสงค์ โดยคาดว่าราคาน้ำมันเบรนท์จะลดลง 8% สู่ระดับเฉลี่ย 74 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2568 และจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 66 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2569 พร้อมกับคาดการณ์ว่าราคาน้ำมัน WTI โดยเฉลี่ยในปี 2568 จะอยู่ที่ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล และจะลดลงสู่ระดับ 62 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2569
รายงานคาดการณ์ของ EIA ได้บดบังปัจจัยบวกจากข่าวสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซีย โดยมาตรการคว่ำบาตรพุ่งเป้าไปยังบริษัทน้ำมันของรัสเซีย ได้แก่ก๊าซพรอม เนฟต์ (Gazprom Neft) และซูร์กุตเนฟเตกัส (Surgutneftegas) รวมถึงเรือบรรทุกน้ำมัน 183 ลำที่เคยขนส่งน้ำมันรัสเซีย เพื่อสกัดกั้นรายได้ที่รัสเซียนำไปใช้ทำสงครามกับยูเครน
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 2.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 ม.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจาก EIA ในวันนี้ เวลาประมาณ 22.30 น.ตามเวลาไทย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ม.ค. 68)
Tags: WTI, น้ำมัน WTI, ราคาน้ำมัน