ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.21/23 ทิศทางแข็งค่าสอดคล้องภูมิภาค คาดกรอบพรุ่งนี้ 33.10-33.50

          นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.21/23 บาท/ดอลลาร์ ค่อนข้างทรงตัว
จากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 33.21 บาท/ดอลลาร์
          ระหว่างวัน เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 33.16-33.23 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้เงินบาท และสกุลเงินส่วนใหญ่ใน
ภูมิภาคเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกัน จากปัจจัยราคาทองคำที่ทำ All time High ประกอบกับตลาด 59% คาดการณ์ว่ามีโอกาสที่ธนาคาร
กลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย.นี้
          "ระหว่างวัน เงินบาทวันนี้ไปถึง 33.16 บาท/ดอลลาร์ แต่ยังคงเป็นระดับที่แข็งค่าสุดในรอบประมาณ 19 เดือน" นักบริหาร
เงิน กล่าว
          สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ คือโฟลว์เงินบาทในตลาดหุ้น เนื่องจากเป็นวันแรกที่เปิดให้จองซื้อหน่วยลงทุน ในกองทุนรวม
วายุภักษ์ หนึ่ง สำหรับนักลงทุนรายย่อย
          นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.10 - 33.50 บาท/ดอลลาร์
          
          * ปัจจัยสำคัญ

          - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 140.20/21 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 140.52 เยน/ดอลลาร์
          - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1121/1122 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1089 ดอลลาร์/ยูโร
          - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,435.53 จุด เพิ่มขึ้น 11.14 จุด (+0.78%) มูลค่าการซื้อขาย 61,020.12 ล้านบาท
          - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 395.71 ลบ.(SET+MAI) 
          - กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) เพื่อให้พิจารณาเรื่องการจ่ายเงิน
ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วย ผู้พิการ และผู้ถือบัตร
สวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะเป็นการโอนเงินสดเข้าบัญชีผ่านระบบพร้อมเพย์ ทั้งนี้ จะมีการแถลงรายละเอียดที่ชัดเจนอีกครั้ง ภายหลังการ
ประชุม ครม.
          - รมว.พาณิชย์ เตรียมนัดหารือ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเร็ว ๆ นี้ 
โดยมี 3 เรื่องที่จะเสนอให้ ธปท.ช่วยดูแลเศรษฐกิจและภาคการส่งออก ได้แก่ 1. การลดดอกเบี้ย 2. ดูแลเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวด
เร็ว และ 3. การเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
          - กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มอยู่
ในกรอบ 33.00-33.70 บาท/ดอลลาร์ จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งตลาดคาดว่าจะลดดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อย 
0.25%
          - เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์ (S&P Global Ratings) ระบุว่า การอุปโภคบริโภคที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องของ
จีน มีสาเหตุมาจากการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศ และมีความเชื่อมโยงกันอย่างมากกับสถานะการเงิน และปัญหา
หนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่นจีน
          - โกลด์แมน แซคส์ และซิตี้กรุ๊ป ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 67 ลงสู่ระดับ 4.7% หลังจากจีนเปิด
เผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลง แตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนในเดือนส.ค.
          - ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย., ยอดค้าปลีกเดือนส.
ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย., ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค.,  ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุม
นโยบายการเงิน และแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 2/2567 และดัชนีชี้
นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.จาก Conference Board