นางสาวธิญาดา เมฆพงษ์สาทร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย ไบโอแมส (ABM) กล่าวกับ "อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทฯ วางเป้ารายได้ปีนี้เติบโตแตะ 3,500 ล้านบาท โดยจะมาจากยอดจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวลที่เพิ่มขึ้นเท่าตัว ราว 1 ล้านตันเมื่อเทียบกับปีก่อน หรือคิดเป็นยอดขาย 1,000 ล้านบาท และเพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าวว่า บริษัทฯ ก็เตรียมขยายกำลังการผลิตชีวมวลอัดแท่ง (Wood Pellet) และโรงไม้สับ โดยวางงบลงทุนไว้ประมาณหลัก 10 ล้านบาท รวมถึงยังมีแผนตั้งโรงงานใหม่เพิ่มเติมอีก คาดใช้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท
ปัจจุบันเชื้อเพลิงชีวมวลของ ABM ประกอบไปด้วย 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กะลาปาล์ม, ไม้สับ ที่มาจากเศษเฟอร์นิเจอร์ หรือโรงเลื่อยไม้ และชีวมวลอัดแท่ง (Wood Pellet) ที่เป็นการเอาเศษขี้กบ ขี้เลื่อยมาอัดเท่ง ทำให้ได้ค่าความร้อนที่สูง
สำหรับการลงทุนที่นอกจากการขายเชื้อเพลิงชีวมวลแล้ว ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เข้าไปซื้อกิจการโรงไม้สับยูคาลิปตัส เพื่อรองรับการทำกระดาษ โดยมองว่าจะใช้โมเดลนี้ในการเข้าซื้อกิจการอื่นๆ เพิ่มเติมอีก เพื่อเข้ามารองรับซัพพลาย ซึ่งปัจจุบันยอมรับว่าก็อยู่ระหว่างเจรจากับหลายโรง แต่ยังไม่สามารถบอกได้ในขณะนี้
ด้านความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ มองว่าจะมาจากนโยบายของรัฐบาล ไม่เพียงแค่รัฐบาลไทย แต่รวมไปถึงรัฐบาลทั่วโลก ในการสนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน เนื่องจากมีราคาถูก แต่เชื่อว่าด้วยเทรนด์โลกที่มุ่งไปสู่พลังงานสะอาดมากขึ้น ทำให้ความต้องการใช้เชื้อเพลิงจะไม่กลับไปที่พลังงานฟอสซิลอีก
บริษัทฯ มองเทรนด์อุตสาหกรรมฯ จากนี้ยังคงมีการเติบโต หลังจากทั่วโลกมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน (Global warming) กันอย่างมาก เนื่องด้วยเชื้อเพลิงของโรงงานอุตสาหกรรมที่นิยมใช้กันนั้นมาจากก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน น้ำมันเตา ซึ่งถือเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหมด ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในขณะที่เชื้อเพลิงชีวมวล การปล่อยก๊าซฯ นั้นเท่ากับศูนย์
ทำให้มีเทรนด์เกี่ยวกับภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) และคาร์บอนเครดิตเกิดขึ้น ซึ่งหลายๆ โรงงานอุตสาหกรรมก็มีการตื่นตัว และเปลี่ยนจากเชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลมากขึ้น จึงมองว่าความต้องการใช้จะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทฯ มีลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอาหาร ทั้งอาหารคนและอาหารสัตว์ โรงไฟฟ้าชีวมวล ยางรถยนต์ และเคมีภัณฑ์ ตลอดจนทุกโรงงานที่ใช้พลังงานความร้อน ซึ่งกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ก็มีความต้องการที่จะมุ่งไปสู่พลังงานสะอาดมากขึ้นด้วยในอนาคต โดยเฉพาะการส่งออกไปฝั่งยุโรป และอเมริกา ซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบของประเทศดังกล่าว ที่การผลิตสินค้าจะไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มาตั้งแต่ต้นทาง
บริษัทฯ วางเป้าหมายใน 3-5 ปี จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 1,000 ล้านบาท โดยในปีนี้รายได้เติบโตมาอยู่ที่ 3,500 ล้านบาท ปี 67 เติบโตเป็น 4,500 ล้านบาท ปี 68 เพิ่มเป็น 5,500 ล้านบาท จากการขยายโรงงานเพิ่มต่อเนื่อง และมองหาพาร์ทเนอร์ทั้งซัพพลายเออร์ และลูกค้า เข้ามาร่วมทุน เพื่อลงทุนตั้งโรงงาน รองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น
ABM ถือเป็นตัวเลือกของสินค้าที่เกี่ยวกับ Sustainable และพลังงาน หากนักลงทุนนมองหาสิ่งเหล่านี้ ABM ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่มองว่าการเติบโตจะค่อนข้างเร็วในระยะเวลา 3-5 ปีจากนี้
https://youtu.be/P4v4fx7VrSM