CGTN: จีน-แอฟริกาใต้ ก้าวเข้าสู่ "ยุคทอง" ของความสัมพันธ์ทวิภาคี

ข่าวประชาสัมพันธ์ โดย ThaiPR.net

ด้วยมิตรภาพอันลึกซึ้งดุจสหายและพี่น้อง จีนและแอฟริกาใต้ สองประเทศกำลังพัฒนาที่สำคัญของโลก กำลังผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วยความร่วมมือที่ประสบผลสำเร็จมากขึ้นใน "ยุคทอง" ขณะที่ผู้นำของทั้งสองประเทศพบกันที่กรุงพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำของจีน ได้พบกับประธานาธิบดี ซีริล รามาโฟซา ผู้นำของแอฟริกาใต้ ในโอกาสนี้ ผู้นำจีนได้รำลึกถึงผลสำเร็จจากความร่วมมือทวิภาคีตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการที่ค่ายรถจากจีนอย่าง BAIC Group ได้สร้างโรงงานผลิตในแอฟริกาใต้ และการก่อตั้งสถาบันขงจื๊อแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดอร์บันในปี 2556 พร้อมกับแสดงความยินดีที่ได้เห็นความก้าวหน้าของแอฟริกาใต้ในการพัฒนาประเทศ

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2561 ประธานาธิบดีจีนและประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ได้ร่วมกันเปิดตัวรถยนต์ BAIC คันแรกที่ประกอบในแอฟริกาผ่านทางวิดีโอลิงก์ และในปี 2566 นี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่แอฟริกาใต้รับบทเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ 15 ทางโรงงานของ BAIC Group ในแอฟริกาใต้จึงเตรียมเปิดตัวรถยนต์ BAIC ที่ผลิตในแอฟริกาใต้

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า เขาได้เห็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของความสัมพันธ์จีน-แอฟริกาใต้ และในการเยือนแอฟริกาใต้อย่างเป็นทางการครั้งที่ 4 นี้ เขาหวังว่าทั้งสองประเทศจะสานต่อมิตรภาพและกระชับความร่วมมือให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ การเดินทางเยือนแอฟริกาใต้อย่างเป็นทางการสามครั้งก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในปี 2556, 2558 และ 2561 ตามลำดับ

ยกระดับความสัมพันธ์

ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 25 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างจีนกับแอฟริกาใต้ โดยตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้รับการยกระดับอย่างต่อเนื่อง จากการเป็นหุ้นส่วนสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้านในที่สุด

ในบทความเรื่อง "ล่องเรือใหญ่แห่งมิตรภาพและความร่วมมือจีน-แอฟริกาใต้ สู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม" ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับแอฟริกาใต้เป็นหนึ่งในความสัมพันธ์ที่มีชีวิตชีวาที่สุดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และได้เข้าสู่ "ยุคทอง" ด้วยอนาคตอันสดใส

ทั้งนี้ แอฟริกาใต้เป็นประเทศเดียวจากทวีปแอฟริกาที่เข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRIC อย่างเป็นทางการในปี 2554 จนขยายเป็นกลุ่ม BRICS นอกจากนี้ แอฟริกาใต้ยังเป็นประเทศแรกจากทวีปแอฟริกาที่ลงนามในเอกสารความร่วมมือภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ในปี 2558

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า เวลานี้เป็นจุดเริ่มต้นใหม่แห่งประวัติศาสตร์ และเขายินดีที่จะทำงานร่วมกับผู้นำแอฟริกาใต้เพื่อผลักดันความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้านจีน-แอฟริกาใต้ ให้ก้าวไปสู่ระดับใหม่

กระชับความร่วมมือลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคีอยู่ในจุดเริ่มต้นใหม่ โดยการกระชับความร่วมมือและการประสานงานอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้นถือเป็นปณิธานร่วมกันของทั้งสองประเทศ อีกทั้งยังเป็นภารกิจสำคัญแห่งยุคสมัย

ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2566 การค้าทวิภาคีระหว่างจีนกับแอฟริกาใต้มีมูลค่าถึง 2.825 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี คุณซู เจวี๋ยถิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวเสริมว่า จีนยังคงรักษาตำแหน่งคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของแอฟริกาใต้เป็นเวลา 14 ปีติดต่อกัน ขณะที่แอฟริกาใต้ก็เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในทวีปแอฟริกาเป็นเวลา 13 ปีติดต่อกัน

นอกจากนี้ ด้วยเงินลงทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ จีนจึงเป็นหนึ่งในแหล่งเงินลงทุนหลักในแอฟริกาใต้

กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า จีนและแอฟริกาใต้ได้ร่วมกันสร้างทางรถไฟระยะทางกว่า 10,000 กิโลเมตร รวมถึงทางหลวงเกือบ 100,000 กิโลเมตร และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอีกมากมาย ทั้งสนามบิน ท่าเรือ สะพาน และโรงไฟฟ้า

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ประเทศกำลังพัฒนาที่สำคัญทั้งสองประเทศยังได้ร่วมมือกันในโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีระดับไฮเอนด์ และพลังงานสะอาดอีกด้วย

สานต่อมิตรภาพ

นอกเหนือจากการค้าทวิภาคีที่เฟื่องฟูแล้ว ทั้งสองประเทศยังประสบความสำเร็จในการสร้างความร่วมมือด้านการศึกษา วัฒนธรรม และอื่น ๆ ส่งผลให้ประชาชนของทั้งสองประเทศรู้จักกันมากขึ้น

คุณเฉิน เสี่ยวตง เอกอัครราชทูตจีนประจำแอฟริกาใต้ กล่าวว่า นอกจากการจัดประชุมกลไกการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนระดับสูงแอฟริกาใต้-จีน (South Africa-China High-level People-To-People Exchange Mechanism) รวมสามครั้งแล้ว จีนและแอฟริกาใต้ยังร่วมกันริเริ่มโครงการศูนย์ปฏิบัติการเทคโนโลยีและนวัตกรรมลูปัน (Luban Workshop) ซึ่งเป็นโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้านอาชีวศึกษาของจีนในต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านอาชีวศึกษาระหว่างสองประเทศ

นอกจากนี้ คุณไซยาบองกา ไซเปรียน ซวีลี (Siyabonga Cyprian Cwele) เอกอัครราชทูตแอฟริกาใต้ประจำประเทศจีน กล่าวว่า ชาวแอฟริกาใต้ชื่นชอบภาพยนตร์และรายการทีวีของจีนมาก รวมถึงกังฟูจีนและประวัติศาสตร์จีนด้วย

ขณะเดียวกัน ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา มีการแลกเปลี่ยนนักเรียนระหว่างแอฟริกาใต้กับจีนมากขึ้นเรื่อย ๆ

คุณซวีลีกล่าวเสริมว่า ในปี 2558 แอฟริกาใต้ได้บูรณาการการสอนภาษาจีนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบการศึกษาแห่งชาติ และมัคคุเทศก์ชาวแอฟริกาใต้จำนวนมากก็เรียนภาษาจีนเช่นกัน

ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยกว่า 10 แห่งในจีนได้สร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในแอฟริกาใต้ ซึ่งรวมถึงความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยครุศาสตร์ตะวันออกเฉียงเหนือ (Northeast Normal University) ในเมืองจี๋หลินทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน กับมหาวิทยาลัยพริทอเรีย (University of Pretoria) ในแอฟริกาใต้ เมื่อปี 2555

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ยกย่องมิตรภาพอันลึกซึ้งดุจ "สหายและพี่น้อง" ระหว่างจีนกับแอฟริกาใต้ พร้อมกับเน้นย้ำว่าการสานต่อมิตรภาพ ณ จุดเริ่มต้นใหม่แห่งประวัติศาสตร์ถือเป็นภารกิจสำคัญแห่งยุคสมัย

https://news.cgtn.com/news/2023-08-22/How-China-S-Africa-usher-in-golden-era-for-bilateral-ties-1mtRFQB6wpi/index.html



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ข่าวประชาสัมพันธ์ โดย ThaiPR.net