สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐ (FDA) ได้อนุญาตให้ใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) จำนวน 14 ล้านโดส ซึ่งผลิตในโรงงานของบริษัทอีเมอร์เจนท์ ไบโอโซลูชันส์ อิงค์ ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์แล้ว
ทางด้าน FDA ได้ยืนยันให้มีการใช้วัคซีนของจอห์นสันฯ ซึ่งผลิตในโรงงานดังกล่าวได้ โดยไม่ได้ระบุถึงจำนวนโดส
แหล่งข่าววงในให้ข้อมูลว่า วัคซีนของจอห์สันที่ได้รับอนุญาตทั้งหมดนั้นคาดว่าจะส่งออกไปยังประเทศต่างๆ โดยมีการบรรจุวัคซีนลงขวดพร้อมใช้แล้ว
เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ทางการสหรัฐได้สั่งระงับการผลิตวัคซีนของจอห์นสันฯ ที่โรงงานดังกล่าว หลังพบการปนเปื้อนกับสารประกอบในการผลิตวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งผลิตในโรงงานแห่งเดียวกันนี้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ FDA พบปัญหาด้านสุขอนามัยหลายประการ รวมถึงการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานในโรงงานของบริษัทอีเมอร์เจนท์ โดยบริษัทจอห์นสันฯ ได้เข้ารับผิดชอบการดำเนินการผลิตในโรงงานดังกล่าวแทนที่บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า
ความกังวลด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับวัคซีนของจอห์นสันฯ ประกอบกับความต้องการวัคซีนในสหรัฐที่เริ่มลดลง ส่งผลให้วัคซีนของจอห์นสันฯ มีปริมาณการใช้งานน้อยลงตามไปด้วย โดยมีวัคซีนของบริษัทเกือบ 10 ล้านโดสที่ไม่ได้ใช้งานจากจำนวนวัคซีนทั้งหมด 21 ล้านโดสที่ผลิตสำหรับสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 64)
Tags: AstraZeneca, COVID-19, FDA, J&J, Johnson & Johnson, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, สหรัฐ, อีเมอร์เจนท์ ไบโอโซลูชันส์ อิงค์, แอสตร้าเซนเนก้า, โควิด-19