- ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (12.30 น.)
- ผู้ติดเชื้อสะสม 189,828 คน (+2,290)
- เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ = 1,334 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุกในชุมชน = 632 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง = 294 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) = 30 ราย
- รักษาหายแล้ว 144,998 คน (+5,711)
- รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 43,428 คน (-3,448)
- เสียชีวิตสะสม 1,402 คน (+27)
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,290 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,334 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 632 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 294 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 30 ราย
- มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 27 ราย เป็นชาย 15 ราย หญิง 12 ราย อายุระหว่าง 48-94 ปี โดยมาจาก กทม. 17 ราย
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 189,828 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 144,998 ราย เพิ่มขึ้น 5,711 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 1,402 ราย
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) ยังคงเป็นจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อวันสูงสุด โดยวันนี้อยู่ที่ 942 ราย รองลงมา เป็น จ.สมุทรปราการ 173 ราย จ. นนทบุรี 102 ราย นอกนั้นต่ำกว่าระดับ 100 คนต่อวัน
โดยที่ กทม.พบอีก 3 คลัสเตอร์ใหม่ คือที่เขตหลักสี่ เป็นแคมป์ก่อสร้างวรสิทธิ์ พบผู้ป่วย 59 ราย, เขตบางรักที่ตลาดซอยละลายทรัพย์ พบผู้ป่วย 20 ราย และเขตภาษีเจริญ โรงงานเย็บผ้าซีพีจี การ์เม้นท์ พบผู้ปวย 37 ราย
ส่วน จ.สมุทรปราการ ตรวจพบคลัสเตอร์ใหม่ที่ อ.บางเสาธง เป็นบริษัทเสื้อถักไหมพรมส่งออก พบผู้ป่วยใหม่ 67 ราย , จ.นนทบุรี พบเพิ่มอีก 11 ราย ที่แคมป์คนงานก่อสร้างใน 3 อำเภอ ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว และที่ตลาดบางใหญ่อีก 12 ราย และ จ.นครปฐม พบคลัสเตอร์ใหม่ที่โรงงานชำแหละไก่ อ.สามพราน อีก 63 ราย
นอกจากนี้ ยังมีคลัสเตอร์ใหม่ใน จ.อื่นๆ อีก เช่น จ.สงขลา ที่ตลาดวชิราในอำเภอเมือง พบผู้ป่วยใหม่ 7 ราย โรงงานถุงมือยาง ในอำเภอสะเดา 19 ราย, จ.เพชรบุรี เพิ่มอีก 4 ราย ในโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นการรายงานอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันพบว่ามียอดผู้ป่วยสะสมในโรงงานดังกล่าวแล้วถึง 5,096 ราย นอกจากนี้ ยังมีคลัสเตอร์ใหม่อีก 24 ราย ที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ อำเภอเขาย้อย และคลัสเตอร์ใหม่ที่ จ.จันทบุรี มีผู้ป่วยอีก 13 ราย ที่ตลาดไทย-กัมพูชา ในอำเภอโป่งน้ำร้อน
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า แนวโน้มของผู้ป่วยโควิดที่มาจากระบบบริการและเฝ้าระวัง และการตรวจคัดกรองเชิงรุกยังมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เว้นแต่ในกลุ่มเรือนจำที่ผู้ติดเชื้อเริ่มลดลง ดังนั้นในภาพรวมขณะนี้จึงยังไม่สามารถไว้วางใจได้ และยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จะยังมีการสุ่มตรวจและเฝ้าระวังในพื้นที่ 11 แห่ง ซึ่งถือว่าเป็นจุดเสี่ยงภายในชุมชน ได้แก่ สถานีขนส่ง สถานที่ต่ออายุแรงงานต่างด้าว หน่วยราชการด่านหน้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน สถานดูแลผู้สูงอายุ ศาสนสถาน แคมป์คนงาน เป็นต้น ดังนั้นจึงขอให้เจ้าของหน่วยงาน หรือเจ้าของสถานประกอบการให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดด้วย
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ในวันนี้ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้มีการรับทราบแนวทางการควบคุมโรคโดยหลักการ Bubble and Sealed ที่นำเสนอโดยศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) กระทรวงสาธารณสุข เพื่อดูแลการแพร่ระบาดในแคมป์คนงานก่อสร้าง ตลอดจนสถานประกอบการต่างๆ ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อ ได้เห็นชอบในหลักการแล้ว
“วันนี้กรมควบคุมโรคได้นำเสนอเป็นไกด์ไลน์ Bubble and Sealed ต่อที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก ซึ่งได้นำเสนอในที่ประชุม EOC ของกระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการโรคติดต่อเห็นชอบในหลักการแล้ว ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กวันนี้ได้มีการหารือกัน และขอให้กรมควบคุมโรคกลับไปปรับ และจะประกาศใช้ในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ทุกจังหวัดได้ใช้เป็นมาตรฐานเดียวกัน”
พญ.อภิสมัยกล่าว
ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 175,616,534 ราย เสียชีวิต 3,788,650 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 34,275,783 ราย อันดับสอง อินเดีย 29,273,338 ราย อันดับสาม บราซิล 17,215,159 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 5,729,967 ราย และอันดับห้า ตุรกี 5,313,098 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 79
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 มิ.ย. 64)
Tags: COVID-19, ศบค., ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19, อภิสมัย ศรีรังสรรค์, โควิด-19