นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบ ในลักษณะพักฐาน ห่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศ จากที่ขณะนี้พบเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้-อินเดีย ทั้งกังวลการปรับเกณฑ์นโยบายการเงินของเฟดหลังเงินเฟ้อสหรัฐฯสูงขึ้น และ Fund Flow เป็นลบ เห็นได้จากต่างชาติขายต่อเนื่อง รวมถึง MSCI ก็จะปรับลดน้ำหนักลงทุนหุ้น ยิ่งไปกว่านั้นตลาดฯไร้ปัจจัยบวกใหม่หนุน ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,545-1,550 แนวต้าน 1,560-1,565 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ ในลักษณะพักฐาน เนื่องจากมีความเป็นห่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศขณะนี้ที่พบเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้ และเชื้อสายพันธุ์อินเดีย และมีความกังวลการปรับเกณฑ์นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากเงินเฟ้อสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้ง Fund Flow เป็นลบ เห็นได้จากนักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่อง
นอกจากนี้ MSCI ก็จะปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยด้วย และตลาดฯก็ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาด้วย อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้มีตัวเลขการค้าของไทยและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทย ส่วนนอกประเทศให้ติดตามผลิตภีณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) งวดไตรมาส 1/62 (ประมาณการครั้งที่ 2) ของสหรัฐฯ และติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯรายสัปดาห์
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,545-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560-1,565 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,207.84 จุด เพิ่มขึ้น 123.69 จุด (+0.36%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,155.86 จุด ลดลง 3.26 จุด (-0.08%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,470.99 จุด ลดลง 64.75 จุด (-0.48%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.29 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 105.51 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 40.45 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 พ.ค.) 1,552.44 จุด ลดลง 2.10 จุด (-0.14%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,127.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 พ.ค.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 พ.ค.) ปิด 63.58 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.64 ดอลลาร์ หรือ 2.7%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 พ.ค.) อยู่ที่ 1.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.38 ทรงตัวจากสัปดาห์ก่อน แนวโน้มแกว่งในกรอบ 31.30-31.45
- 7 ปีรัฐบาลประยุทธ์รับวิกฤติรอบด้าน “การเมือง เศรษฐกิจชะลอ โควิดระบาด” ดัชนีเศรษฐกิจบางตัวสะท้อน “การพัฒนาที่ล่าช้า ถดถอย” ทีดีอาร์ไอมองเศรษฐกิจ ขาดดุลงบฯ ต่อเนื่อง เหตุใช้เงินกระตุ้นระยะสั้น นโยบายระยะยาวไม่เป็นรูปธรรม นักเศรษฐศาสตร์ ชี้ 7 ปีไทยสูญเสียการแข่งขัน
- อุตฯ จับมือพาณิชย์แก้ปัญหาราคาเหล็กแพง หลังราคาเหล็กในตลาดโลกมีการปรับราคาสูง หวั่นกระทบต้นทุนผู้ประกอบการ สั่งดูแลผู้ผลิตไม่ให้สินค้าขาดตลาด มั่นใจกำลังการผลิตอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศเพียงพอ
- การบินไทยเปิดโครงการ “แอร์-สจ๊วต” สมัครใจลาหยุดยาว 9 เดือน รับเงิน 20% ของเงินเดือน พ่วงเงื่อนไขทำอาชีพเสริมได้ ดีเดย์เริ่มหยุด 1 มิ.ย.64 ถึง 28 ก.พ.65 รองรับสถานการณ์การบินยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ ด้านความคืบหน้าแผนฟื้นฟู รอลุ้น 28 พ.ค.นี้ ศาลล้มละลายกลางเห็นชอบ พร้อมตั้ง 5 ผู้บริหาร
- นางราณี โฆษิตวานิช รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าความร่วมมือระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในโครงการสถานีเก็บรักษาและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติจากของเหลวเป็นก๊าซสำหรับโรงไฟฟ้าภาคใต้ (LNG Receiving Facilities) เพื่อศึกษาโอกาสการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรับ เก็บ และแปรสภาพก๊าซธรรมชาติเหลวในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการ 3 ด้าน คือ 1. การศึกษาการลงทุนร่วมกันระหว่าง ปตท. และ กฟผ.
หุ้นเด่นวันนี้
- PIMO-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.ไพโอเนียร์ มอเตอร์ (PIMO)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 176,131,436 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.75 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (12 พฤษภาคม 2564) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 27 ม.ค. 2565 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 11 พ.ค. 2566
- CEN-W5 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค (CEN) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 372,376,224 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 2.14 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกและเสนอขาย (13 พฤษภาคม 2564) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 15 มี.ค.2565 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 12 พ.ค. 2569
- TKS (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 15.80 บาท ประเมินโมเมนตัมกำไรยังเห็นการเติบโตอย่างมีนัย Y-Y อย่างต่อเนื่องทั้งธุรกิจโรงพิมพ์ที่ฟื้น รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจาก SYNEX ยังแข็งแกร่งจากกระแส 5G และ Digital Era พร้อมคาดการกำไรปี 64-65 +40% Y-Y และ +18% Y-Y ตามลำดับ ในทางเทคนิคยืนแนวรับ 10 บาทได้เป็น Sentiment บวก ส่วน Valuation ยังถูกมากโดยยัง Discount จาก NAV ของ SYNEX เกือบ 50%
- SCGP (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า 60 บาท กำไรสุทธิยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการเพิ่มกำลังการผลิต และ ผลบวกจากการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมี Sentiment บวกจากการได้เข้าคำนวณในดัชนี MSCI รอบใหม่มีผล 27 พ.ค.และ FTSE มีผล 18 มิ.ย.64
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 64)
Tags: SET, SET Index, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, ทิสโก้, หุ้นไทย, อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล