นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า วันนี้มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 523 ราย รักษาหายแล้ว 218 ราย ทำให้มียอดผู้ต้องขังอยู่ระหว่างการรักษารวม 14,348 ราย จากเรือนจำและทัณฑสถาน 12 แห่ง โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มในเรือนจำ 7 แห่ง
ปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ได้รับการตรวจหาเชื้อไปแล้ว 37,288 ราย มีเรือนจำที่ตรวจครบ 100% เพิ่มอีก 1 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดฉะเชิงเทรา ส่วนเรือนจำอื่นๆ ที่มีการตรวจครบ 100% แล้วจะมีการ SWAB หาเชื้อซ้ำในกลุ่มที่ยังตรวจไม่เชื้อพบทุก 7 วัน รวมถึงการตรวจพาเชื้อในเรือนจำอื่นๆ ตลอดจนผู้ตัองขังเข้าใหม่ทุกรายจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในวันนี้ได้เริ่มฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังที่เรือนจำพิเศษมีนบุรีเป็นแห่งแรก จำนวน 1,500 ราย และตั้งเป้าฉีดวัคซีนเข็มแรกจนครบ 3,831 ราย ภายใน 1 สัปดาห์ โดยการสนับสนุนวัคซีนจากกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข เป็นวัคซีน 2 ชนิด คือ ชิโนแวค เพื่อฉีดแก่ผู้ต้องขังกลุ่มอายุต่ำกว่า 60 ปี และcอสตร้าเซนเนก้า เพื่อฉีดให้กับผู้ต้องขังกลุ่มสูงอายุ และกลุ่มป่วย 7 โรคเรื้อรัง ด้วยความร่วมมือในการให้บริการฉีดจากโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ได้มอบหมายให้ศูนย์ CARE ประจำเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่งรับผิดชอบในการประสานงานรวบรวมข้อมูลของผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ และแจ้งให้ญาติผู้ต้องขังทราบเป็นการเฉพาะราย พร้อมทั้งแจ้งความคืบหน้าการรักษา และอาการป่วยของผู้ต้องขังให้ญาติทราบผ่านทางโทรศัพท์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่นใดที่ได้แจ้งไว้ เพื่อบรรเทาความห่วงใยของญาติผู้ต้องขัง โดยการดำเนินการทุกขั้นตอนจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ต้องขังก่อนเสมอ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ค. 64)
Tags: COVID-19, กรมราชทัณฑ์, อายุตม์ สินธพพันธุ์, เรือนจำ, โควิด-19, โควิดเรือนจำ