นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป (IIG) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/64 จะสูงสุดทำสถิติใหม่ต่อเนื่องจากไตรมาส 1/64 โดยบริษัทได้มีการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าองค์กรธุรกิจให้แข่งขันได้ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ขณะที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกที่สามนี้ยังคงกระทบต่อภาพรวมต่อภาพรวมการทำงานในสังคมให้ปรับมาเป็นการทำงานที่บ้าน “Work from Home” ส่งผลให้หน่วยงานราชการและภาคเอกชนเปลี่ยนรูปแบบการทำงานและการดำเนินธุรกิจมาอยู่บนระบบคลาวด์ (Cloud) มากขึ้น ส่งผลบวกต่อธุรกิจของกลุ่มบริษัททุกกลุ่มให้มีการเติบโต
ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าเก่าที่ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็มีลูกค้ารายใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมด้วย ซึ่งขณะนี้มีปริมาณงานในมือ (Backlog) แล้วมูลค่าราว 309 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้เข้ามาเป็นรายได้เกือบทั้งหมดในปีนี้ พร้อมกันนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานและเสนอราคาให้แก่ลูกค้าเพิ่มเติมมูลค่ารวม 258 ล้านบาท คาดหวังจะได้งานไม่ต่ำกว่า 50% ของมูลค่างานทั้งหมดที่เข้าประมูล
“ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้รูปแบบการทำงานของทั้งภาคเอกชน และภาครัฐมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นการทำงานที่บ้านมากขึ้น ซึ่งองค์กรต่างๆก็ต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์การทำงานที่มีรูปแบบเปลี่ยนแปลงไป เป็นปัจจัยหนุนให้บริษัทมีการเติบโตขึ้นต่อเนื่องในปีนี้ ทำให้เรามั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 700 ล้านบาท”
นายสมชาย กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 64)
Tags: backlog, Cloud, IIG, ซอฟต์แวร์, ผลประกอบการ, ระบบคลาวด์, สมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์, ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป