นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) เปิดเผยว่า บริษัทได้เลื่อนการเปิด 2 โครงการ มูลค่ารวม 12,600 ล้านบาท คือโครงการ ดิ เอ็มบาสซี่ แอท ไวร์เลส (The Embassy at Wireless) มูลค่า 10,700 ล้านบาท และโครงการ นิว โนเบิล ดอนเมือง (Nue Noble at Don Mueang) มูลค่า 1,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกสาม ทำให้บริษัทมองว่าขณะนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม และการเข้าชมโครงการไม่สามารถทำได้ตามที่ควร
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากที่การกระจายการฉีดวัคซีนทำได้มากขึ้น และจะทำให้ประเทศไทยสามารถรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาหนุนเศรษฐกิจให้มีการฟื้นตัว ในขณะเดียวกันผู้ที่ต้องการจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยก็จะสามารถเข้ามาชมโครงการจริงได้ จะทำให้ยอดการเข้าซื้อโครงการจากต่างชาติเพิ่มมากขึ้นด้วย
โดยบริษัทยืนยันว่าจะสามารถเปิดโครงการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 11 โครงการ มูลค่ารวม 45,100 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 25,000 ล้านบาท และแนวราบ 7 โครงการ มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท
ขณะที่เป้าหมายยอดขายปีนี้บริษัทยังคงไว้ที่ 16,000 ล้านบาท เติบโต 142% จากปีก่อนที่มียอดขาย 6,602 ล้านบาท โดยช่วงไตรมาส 1/64 มียอดขายแล้ว 2,568 ล้านบาท พร้อมคงเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 11,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่า 12,884 ล้านบาท โดยจะสามารถโอนกรรมสิทธื์และรับรู้รายได้ในปีนี้กว่า 4,000 ล้านบาท
“ปัจจุบันเรายังไม่ได้มีการทบทวนเป้าหมายใหม่ เพราะเรามองว่าสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นจากการกระจายการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเข้ามาหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามายังประเทศไทย จะเข้ามาหนุนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์เหมือนกับที่เกิดขึ้นแล้วในประเทศอังกฤษ แต่อย่างไรก็ตามเราก็ยังรอดูสถานการณ์หากยังไม่ดีขึ้นเราก็อาจจะกลับมาทบทวนแผนและเป้าหมายต่างๆอีกครั้ง”
นายธงชัย กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ค. 64)
Tags: NOBLE, ที่อยู่อาศัย, ธงชัย บุศราพันธ์, หุ้นไทย, อสังหาริมทรัพย์, โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์