จุรินทร์ เตรียมชง ศบค.ออกมาตรการช่วยเหลือผู้พิการในสถานการณ์โควิด-19

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการแห่งชาติ กล่าวถึงการดูแลผู้พิการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ได้มีการดำเนินการใน 2 ส่วน

โดยส่วนที่ 1 เกี่ยวข้องกับโควิด ได้มีการกำหนดมาตรการเป็น 2 มาตรการ คือ

  • มาตรการที่ 1 จะนำมติคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการแห่งชาติ เสนอไปยัง ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)ในการประชุมนัดครั้งต่อไป เพื่อขอเพิ่มช่องทางพิเศษให้กับผู้พิการได้สามารถฉีดวัคซีนได้ จากเดิมที่เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุ บุคลากรทางการแพทย์ อสม. และผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง เนื่องจากขณะนี้มีผู้พิการจำนวน 8 แสนคนยังไม่เข้าข่ายเป็นผู้สูงอายุ รวมไปถึงผู้พิการที่มีอายุเกิน 18 ปีด้วย เพื่อให้คนกลุ่มนี้ได้รับสิทธิในการฉีดวัคซีนในลำดับต้นๆ นอกจากนั้นในการดำเนินการฉีดวัคซีนก็ขอให้เปิดเป็นช่องทางพิเศษเช่นเดียวกับผู้สูงอายุ หรือกลุ่มอื่นๆ
  • มาตรการที่ 2 ได้เร่งรัดให้มีการเปิดโรงพยาบาลสนาม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับผู้ป่วยโควิดที่เป็นผู้พิการ เนื่องจากผู้พิการนั้นมีความหลากหลาย ทั้งตาบอด หูพิการ พิการด้านร่างกาย จำเป็นต้องมีผู้ช่วย ดังนั้นอาจทำให้การเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลสนามร่วมกับคนปกติเป็นเรื่องยุ่งยาก จึงควรทำโรงพยาบาลสนามแยกออกมาต่างหาก ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้วที่อุทยานวิทยาศาสตร์ศิรินทร คลองหลวง ปทุมธานี โดยในวันที่ 26 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ตนเองจะนำคณะกรรมการฯ ไปติดตามความคืบหน้า และตั้งเป้าว่าจะเปิดให้บริการให้ได้ในวันที่ 1 มิ.ย.64

ส่วนที่ 2 ในมาตรการอื่นๆ นั้นมี 4 มาตรการ คือ

  • มาตรการที่ 1 ขณะนี้มีผู้พิการประมาณ 5 หมื่นคนที่บัตรผู้พิการกำลังจะหมดอายุ และหากบัตรหมดอายุจะทำให้ไม่สามารถรับสวัสดิการได้ ดังนั้นจะได้ดำเนินการยืดอายุให้กับบัตรดังกล่าวเป็นเวลา 6 เดือน ให้สามารถใช้ต่อไปได้โดยไม่ต้องไปต่ออายุ
  • มาตรการที่ 2 การดำเนินการการพักหนี้ให้ผู้พิการที่เป็นหนี้กองทุนผู้พิการ โดยจะได้ขยายเวลาในการรับสมัครผู้พิการที่ต้องการพักหนี้ จากเดิมที่หมดเขตไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค.64 ออกไปเป็นวันที่ 31 มี.ค.65 เพื่อให้ผู้พิการที่ต้องการพักหนี้สามารถยื่นเรื่องดำเนินการได้อีก 1 ปี
  • มาตรการที่ 3 การขยายเวลาให้ผู้พิการขอกู้เงินรายละไม่เกิน 1 หมื่นบาท เพื่อไปประกอบอาชีพโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งเดิมจะหมดอายุในวันที่ 31 พ.ค.64 ก็จะขยายเวลาออกไปอีก 4 เดือน ให้ไปหมดเขตวันที่ 30 ก.ย.64 ขณะนี้มีผู้ยื่นในมาตรการนี้มาแล้ว 16,709 ราย
  • มาตรการที่ 4 จะดำเนินการแก้ไขระเบียบของกองทุน จากเดิมที่การกู้เงินของผู้พิการจะต้องมีบุคคลค้ำประกันเท่านั้น ก็จะเพิ่มโอกาสให้ผู้พิการสามารถเข้าถึงเงินกู้ได้ โดยจะให้องค์กรผู้พิการสามารถเป็นผู้ค้ำประกันได้ด้วย นอกจากนั้นหากเป็นการกู้ฉุกเฉินก็ไม่จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกัน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top