รัฐบาลจีนเปิดเผยว่า การเติบโตของประชากรจีนชะลอตัวลง เนื่องจากจำนวนประชากรสูงวัยเพิ่มมากขึ้น และมีการพัฒนาความเป็นเมืองมากขึ้นในประเทศ ซึ่งส่งผลให้ภูมิทัศน์ทางประชากรของจีนเปลี่ยนแปลงไป
ผลการสำรวจสำมะโนประชากรระดับชาติครั้งที่ 7 ของจีนซึ่งจัดทำ 1 ครั้งในรอบ 10 ปี ระบุว่า จีนมีประชากร 1.41 พันล้านคน ณ วันที่ 1 พ.ย. 2563 และอัตราการเติบโตเฉลี่ยของประชากรต่อปีอยู่ที่ 0.53% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งลดลงจากระดับของปี 2543-2553 ที่ 0.57%
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า ในปี 2562 ประชากรของจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้น 4.67 ล้านคน แตะ 1.4 พันล้านคน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทางการจีนได้ยกเลิกนโยบายลูกคนเดียว และอนุญาตให้คู่แต่งงานสามารถมีบุตรได้ 2 คน แต่อัตราการเกิดยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปรับตัวลง 15% ในปี 2563 ซึ่งเป็นการลดลงเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
เมื่อต้นปีนี้ นักวิจัยจากธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ตีพิมพ์บทความเรียกร้องให้ยกเลิกข้อจำกัดสำหรับการมีบุตรไปโดยสิ้นเชิง และเอกสารฉบับนี้ยังได้ให้ข้อเสนอแนะอื่นๆ เพื่อกระตุ้นการให้กำเนิดบุตรมากขึ้น พร้อมอธิบายว่า ประชากรสูงอายุของจีนทำให้ประเทศเสียเปรียบทางเศรษฐกิจต่อสหรัฐและอินเดียอย่างไร
การเติบโตของประชากรจีนชะลอตัวมานานหลายทศวรรษ เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและนโยบายการมีลูกคนเดียวที่เข้มงวดส่งผลให้อัตราการเกิดลดลง
ทั้งนี้ ความเป็นไปได้ของจำนวนประชากรที่ลดลงในอนาคตซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทศวรรษ 1960 จะมีบทบาทที่สำคัญต่อประเทศและส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจและการเงินของรัฐบาล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ค. 64)
Tags: PBOC, จีน, ธนาคารกลางจีน, ประชากรจีน, อัตราการเกิด