นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ (ประชุมครั้งที่ 2) โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รายงานผลการดำเนินการโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 และ 2 การพิจารณาความสอดคล้องกับแผนแม่บท MR-MAP (Motorway Railway Master Plan)
โดยมีผลการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 สรุปได้ ดังนี้
1. โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 โครงการ ประกอบด้วย ช่วงฉะเชิงเทรา – แก่งคอย, ช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น
2. สัญญาที่มีผลการก่อสร้าง เร็วกว่าแผนงาน จำนวน 4 สัญญา ประกอบด้วย
- ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 51.83 เร็วกว่าแผนงาน ร้อยละ 20.29
- ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 84.89 เร็วกว่าแผนงานร้อยละ 1.22
- ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 2 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 83.81 เร็วกว่าแผนงานร้อยละ 0.37
- ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 76.85 เร็วกว่าแผนงาน ร้อยละ 0.72
3. สัญญาที่มีผลการก่อสร้าง ล่าช้ากว่าแผนงาน ประกอบด้วย
- ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ สัญญาที่ 2 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 65.59 ช้ากว่าแผนงาน ร้อยละ 1.90
- ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 87.14 ช้ากว่าแผนงาน ร้อยละ 4.15
- ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 2 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 73.15 ช้ากว่าแผนงาน ร้อยละ 11.33
- ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 85.26 ช้ากว่าแผนงาน ร้อยละ 13.59
- ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 2 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 69.03 ช้ากว่าแผนงาน ร้อยละ 2.04
รมว.คมนาคมได้สั่งการให้รฟท.เร่งรัดการก่อสร้างในส่วนที่ล่าช้าให้เป็นไปตามแผนงาน รวมทั้งได้สั่งการเพิ่มเติม ดังนี้
1. การเร่งรัดโครงการก่อสร้างทางคู่ระยะที่ 1 นอกจากที่การรถไฟแห่งประเทศไทยจะรายงานสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหาแล้ว ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดทำแผนการเร่งรัดการก่อสร้าง ที่แสดงกิจกรรมและกำหนดระยะเวลาอย่างชัดเจนว่าจะสามารถเร่งรัดการก่อสร้างให้กลับมาเป็นไปตามแผนงานด้วย ทั้งนี้ ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยประชาสัมพันธ์แผนงานการก่อสร้างในรายละเอียด ทั้งในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างและตามสื่อต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบแผนการก่อสร้างด้วย
2. สำหรับการนำแนวคิด MR-MAP ตามนโยบายมาปรับใช้ โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 และโครงการเส้นทางสายใหม่ ยังไม่สอดคล้องกับกรอบแนวคิดของ MR-MAP เท่าที่ควร ดังนั้น ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยไปพิจารณาปรับปรุงรูปแบบให้สอดคล้องกับแนวคิดของ MR-MAP ด้วย สำหรับส่วนที่ไม่สามารถดำเนินการได้ ให้พิจารณารายงานเหตุผลที่ชัดเจนด้วย
3. รฟท. ได้รายงานสถานะของรายงาน EIA ในแต่ละเส้นทางแล้ว แต่ยังไม่ได้แสดงแผนงานในรายละเอียด ดังนั้น สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 และเส้นทางสายใหม่ ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดทำแผนการดำเนินการในรายละเอียด ที่แสดงกิจกรรมและกำหนดระยะเวลา เพื่อจะได้ใช้ประกอบการกำกับดูแลในรายละเอียดต่อไป
4. รฟท.ได้ปรับปรุงรูปแบบการก่อสร้างโครงการรถไฟช่วงที่ผ่านตัวเมืองบางส่วนตามหลักการของ MR-MAP แล้ว แต่ยังมีบางช่วงที่ยังผ่านชุมชนเมืองอยู่ ดังนั้น ให้ รฟท.พิจารณาออกแบบเส้นทางรถไฟให้ผ่านชุมชนเมืองให้น้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อประชาชนต่อไป
5. การพิจารณาจุดตัดทางรถไฟกับทางหลวง ยังไม่มีรูปแบบมาตรฐานที่ชัดเจนว่าจะเป็นลักษณะของสะพานทางหลวงข้ามทางรถไฟ หรือสะพานรถไฟข้ามทางหลวง ดังนั้น ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ประสานงานกับกรมทางหลวงและกรมการขนส่งทางราง ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบโครงการเพื่อกำหนดรูปแบบมาตรฐานร่วมกัน
6. ให้รฟท.ประสานงานในรายละเอียดกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้การเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟกับสถานีขนส่งสินค้าที่เชียงของและนครพนมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
7. ให้รฟท.ประสานงานกับกรมการขนส่งทางบกและกรมการขนส่งทางรางในการเร่งรัดปรับแผนงานการก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าที่นาทา เพื่อให้ไทยได้ประโยชน์สูงสุดในการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟจากจีน ลาว และไทย โดยในเบื้องต้นหากไม่สามารถพัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น – หนองคาย ได้ทัน อาจพิจารณาการพัฒนาในลักษณะ Phasing โดยใช้การเชื่อมต่อทางถนนในระยะแรกก่อน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ค. 64)
Tags: กระทรวงคมนาคม, การรถไฟแห่งประเทศไทย, รถไฟทางคู่, รฟท., ศักดิ์สยาม ชิดชอบ