บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป (MAJOR) ร่วมส่งเสริมและตอบรับสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) เปิดโมเดล “โรงภาพยนตร์ไร้เงินสด CASHLESS CINEMA” แห่งแรกของไทย ที่ โรงภาพยนตร์ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ดีเดย์ 7 เมษายนนี้ ในคอนเซ็ปต์ สะดวก ปลอดภัย ลดการสัมผัส ในยุค New Normal ให้ลูกค้าได้ใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์บันเทิงยุค New Normal ได้อย่างมั่นใจ
สามารถซื้อตั๋วหนังผ่านทางออนไลน์และตู้จำหน่ายตั๋วหนังอัตโนมัติ E-Ticket โดยตั้งเป้าขยายครบทุกสาขาทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดภายในสิ้นปี 2565 พร้อมจับมือพันธมิตรผู้นำด้านออนไลน์เพย์เม้นท์อาทิ K PLUS, ทรู มันนี่, ช้อปปี้ เพย์ และดอลฟิน วอลเล็ท ให้ลูกค้าสามารถชำระค่าตั๋วหนังผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมมอบสิทธิพิเศษดี ๆ ให้กับลูกค้าที่ชำระผ่านช่องทาง Cashless
นายนรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด MAJOR กล่าวถึงโรงภาพยนตร์ไร้เงินสด CASHLESS CINEMA ว่าเป็นการให้บริการซื้อตั๋วหนังแบบไร้เงินสดเต็มรูปแบบ จะไม่มีพนักงานขายตั๋วหนัง ไม่มีเคาน์เตอร์ Box Office จำหน่ายตั๋วหนัง เป็นการซื้อตั๋วหนังแบบ Self Service ผ่านช่องทางออนไลน์ อาทิ เว็บไซต์, แอพพลิเคชั่น Major Cineplex, ซื้อผ่านตู้จำหน่ายตั๋วหนังอัตโนมัติ E-Ticket ด้านหน้าโรงภาพยนตร์ แล้วเลือกชำระค่าตั๋วหนังด้วยระบบออนไลน์เพย์เม้นท์ต่าง ๆ เช่น ชำระผ่านคิวอาร์โค้ด, อีวอลเล็ท, โมบายแบงก์กิ้ง, แอพพลิเคชั่นธนาคาร, พร้อมเพย์ ตลอดจนการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต,บัตร M gen,บัตร M Cash
นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามาถซื้อป๊อปคอร์น เครื่องดื่ม และสินค้าอื่น ๆ ที่ จุดจำหน่ายขนมและเครื่องดื่ม (Concession) ได้ด้วยบริการ Cashless ผ่านช่องทางออไลน์เพย์เม้นท์และบัตรต่าง ๆ ได้อีกด้วย สำหรับแผนการขยายสาขาโรงภาพยนตร์ไร้เงินสด Cashless Cinema ได้วางแผนขยายสาขาในกรุงเทพฯ เพิ่มอีก 9 สาขา ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ประกอบด้วย เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน, รังสิต, พระราม 3, พารากอน ซีนีเพล็กซ์, เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดา, อีสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์,เมกา ซีนีเพล็กซ์, เวสต์เกต ซีนีเพล็กซ์ และไอคอน ซีเนคอนิค โดยภายในสิ้นปี 2564 จะขยายให้ครอบคลุมทุกสาขาทั้งในกรุงเทพฯและในจังหวัดหลัก อย่างเชียงใหม่และหาดใหญ่ พร้อมตั้งเป้าขยายให้ครบทุกสาขาทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดภายในสิ้นปี 2565
และจากการเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ไร้เงินสด Cashless Cinema จะทำให้สัดส่วนการรับชำระค่าสินค้าและบริการจากเงินสด (Cash) เป็น 0% และชำระแบบไร้เงินสด (Cashless) 100% จากปัจจุบันมีสัดส่วนรับชำระจากเงินสด (Cash) 7% และชำระแบบไร้เงินสด (Cashless) 93% ทางบริษัทมีเป้าหมายสำคัญคือต้องการให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการและมั่นใจกับการดูหนังในยุค New Normal และจะช่วยลดการสัมผัสเงินโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทุกคนต้องระมัดระวังและดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ตลอดจน ลูกค้ายังมีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมจากการใช้บริการ Rekeep การใช้คิวอาร์โค้ดแทนตั๋วหนังกระดาษ ซึ่งเป็นการลดการใช้กระดาษ (Paperless) อย่างหนึ่ง สอดรับกับโครงการ Green Cinema โรงภาพยนตร์รักษ์โลก ที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป ได้ดำเนินการอยู่
“แนวคิดสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว ที่ผ่านมาในหลายประเทศมีการใช้จ่ายแบบไร้เงินสดกันอย่างแพร่หลาย สำหรับ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป ได้พัฒนาระบบการชำระเงินแบบไร้เงินสดมาโดยตลอด อาทิ บัตรM Cash, M Gen, M Pass, App Major Cineplex ตลอดจนร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นผู้นำด้านออนไลน์เพย์เม้นท์รูปแบบต่างๆ อาทิ K PLUS, ทรูมันนี่, ช้อปปี้ เพย์, ดอลฟิน วอลเล็ท ฯลฯ ในการมอบสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการซื้อตั๋วหนังพร้อมชำระผ่านช่องทางออนไลน์เพย์เม้นท์”
นายนรุตม์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 เม.ย. 64)
Tags: CASHLESS CINEMA, MAJOR, นรุตม์ เจียรสนอง, โรงภาพยนตร์, โรงหนัง, โรงหนังเมเจอร์