นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) คาดรายได้จากการขายในปี 64 จะเติบโต 15-20% จากปีก่อนมีรายได้จากการขาย 3,268 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจหลักที่ตั้งเป้าเติบโต 10% ขณะที่ธุรกิจที่เกี่ยวกับกัญชงและกัญชา รวมถึงธุรกิจใหม่ (อาทิ โมบายคาเฟ่) คาดว่าจะมีสัดส่วน 5-10% ของการเติบโตของรายได้รวม
ในปีนี้บริษัทจะขยายตลาดในประเทศมากขึ้น แม้จะโควิด-19 จะยังระบาดอยู่ โดยคาดว่าจะมีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด 20-25 รายการ โดยส่วนใหญ่จะเปิดตัวในไตรมาส 2 ซึ่งจะมีการทำกิจกรรมการตลาดมากขึ้น เพื่อให้ Funtional drink ของบริษัทคงครองอันดับ 1 ในตลาดแม้ว่าจะมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะการที่ผู้บริโภคสามารถใช้จ่ายผ่านมาตรการของภาครัฐ เช่น คนละครึ่ง ม.33 เรารักกัน ทำให้ตลาด Funtional drink ยิ่งคึกคัก
พร้อมกันนั้น บริษัทยังขยายตลาดช่องทางค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) ทั้งในส่วนร้านค้าปลีก ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ นอกจากนี้ก็ยังขยายช่องทางออนไลน์ด้วย รวมทั้งโฟกัสตลาดดิจิทัล E-Commerce ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยังกล่าวว่า สำหรับสินค้าที่มีส่วนผสมของกัญชงกัญชา บริษัทมีแผนจะขยายไปตลาดต่างประเทศนอกจากในประเทศ โดยได้ร่วมมือกับ บริษัท ไทย เฮมพ์ เวลเนส ในโครงการส่งเสริมการปลูกพืชกัญชงเพื่อการผลิตและสร้างอาชีพให้กับเกษตรกรและกลุ่มชาติพันธุ์ในจังหวัดเชียงราย เพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านวัตถุดิบ และก็ยังเป็นการผลิตจากไร่ออแกนิค ที่จะทำให้ขยายตลาดต่างประเทศได้ง่ายขึ้น คาดว่าน่าจะเห็นสินค้าออกมาวางตลาดได้ในไตรมาส 4/64
ส่วนแนวโน้มในไตรมาส 1/64 รายได้อาจลดลงเล็กน้อยรับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศ และในต่างประเทศยังมีการล็อกดาวน์ อย่างไรก็ดี คาดว่าในไตรมาส 2-ไตรมาส 4 น่าจะกลับมาเติบโตต่อเนื่อง
“มองว่าโควิดน่าจะถึง bottom ไปแล้ว หลายประเทศก็ฉีดวัคซีนได้ค่อนข้างเยอะ เราก็จะดูว่าเราจะ Cover ในทุกๆตลาดในต่างประเทศอย่างไร ให้ได้ครบมากที่สุด ตอนนี้เรามองว่าเรื่องของโควิดไม่ได้เป็นปัญหาที่เรากังวลเท่าไหร่ สิ่งที่เราพยายาม Challenge มากขึ้น คือ New Product ที่จะ launch ออกมาอย่างไรให้ตรงใจผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ”
นางสาวปิยจิต กล่าว
ทั้งนี้ ตลาดต่างประเทศ ได้แก่ ตลาดตะวันออกกลาง เชื่อว่าจะกลับมาโตอย่างก้าวกระโดด ตลาดสหรัฐอเมริกาจะเติบโตเฉลี่ย 7-8% แต่ปีก่อนเติบโต 18% และยุโรปก็เติบโตได้ ทั้งนี้ บริษัทส่งออกไปต่างประเทศ 90 ประเทศ มีสัดส่วน 55% ของรายได้ ส่วนในประเทศ 45%
นายอเนก ลาภสุขสถิต ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน (CFO) SAPPE กล่าวว่า บริษัทจะลงทุนเพื่อลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ จากปัจจุบันที่ใช้คลังสินค้านอกบริษัท 3 แห่ง ทำให้ต้นทุนบริษัทค่อนข้างสูง จึงมีแผนจะตั้งคลังสินค้าของตัวเองและจะใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้ มูลค่าลงทุน 350 ล้านบาทในช่วงปี 64-65 โดยปีนี้ลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาท ขณะนี้ได้ซื้อที่ดินข้างโรงงานไว้แล้ว แต่ส่วนการขยายกำลังการผลิตคงยังไม่จำเป็นต้องลงทุนในอีก 2 ปีข้างหน้า
สำหรับการเข้าซื้อกิจการ (M&A) บริษัทได้มีการพูดคุยแต่ละธุรกิจ เรื่อง M&A เป็นการเติบโตที่ระมัดระวังและให้ความใส่ใจ ซึ่งจะศึกษาอย่างรอบคอบ ยังไม่สามารถเปิดเผยดีลได้จนกว่าถึงช่วงเซ็นสัญญา คล้ายดีล All CoCo
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มี.ค. 64)
Tags: SAPPE, กัญชง, กัญชา, ปิยจิต รักอริยะพงศ์, หุ้นไทย, อเนก ลาภสุขสถิต, เซ็ปเป้