สหรัฐประกาศระงับการมีส่วนร่วมทางการค้าทั้งหมดกับเมียนมาภายใต้ข้อตกลงปี 2556 หลังกองทัพเมียนมาก่อเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา และทำปรามปราบอย่างรุนแรงกับผู้ประท้วงที่เรียกร้องประชาธิปไตย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้จนกว่าเมียนมาจะกลับมามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งนับเป็นมาตรการล่าสุดภายใต้คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเพื่อกดดันระบอบเผด็จการทหารของเมียนมา
นางแคทเธอรีน ไท่ ผู้แทนการค้าของสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า การสังหารผู้ชุมนุมที่ประท้วงอย่างสันติ, นักศึกษา, คนงาน, ผู้นำแรงงาน แพทย์และเด็กๆ ได้สร้างความตกใจให้กับประชาคมระหว่างประเทศ
“การกระทำเหล่านี้เป็นการโจมตีโดยตรงต่อกระบวนการเปลี่ยนผ่านของประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตย และต่อความพยายามของประชาชนชาวเมียนมาในการมีอนาคตที่สงบสุขและเจริญรุ่งเรือง”
นางไท่กล่าวเสริม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในปี 2556 สหรัฐและเมียนมาได้ลงนามข้อตกลงที่สร้างโอกาสในการเจรจาและความร่วมมือในประเด็นการค้าและการลงทุน
ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว เมียนมาเห็นพ้องที่จะร่วมมือกับสหรัฐในโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปเศรษฐกิจ และการรวมเข้ากับระบบการค้าโลก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มี.ค. 64)
Tags: การค้าระหว่างประเทศ, ประท้วงเมียนมา, รัฐประหาร, สหรัฐ, เมียนมา, แคทเธอรีน ไท่