บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งให้บริษัทเร่งดำเนินการแก้ไขส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีค่าน้อยกว่าศูนย์ ส่งผลให้บริษัทฯเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนออกจากการเป็นบริษัทหลักทรัพย์จดทะเบียนนั้น บริษัทแจ้งว่าการยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อดำเนินการฟื้นฟูกิจการตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) เชื่อว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท
บริษัทมีแนวทางในการแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนและกำหนดระยะเวลาการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ดังนี้
1.การดำเนินการให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯมีค่ามากกว่าศูนย์ บริษัทมีแผนจะปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างหนี้เพื่อทำให้บริษัทสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในเบื้องต้นคาดว่าจะมีการเพิ่มทุน รวมถึงมีการให้สิทธิการแปลงหนี้เป็นทุนแก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นและลดภาระหนี้สิน อีกทั้งบริษัทได้ดำเนินในด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสภาพคล่องทางการเงิน และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มทั้งรายได้และลดค่าใช้จ่ายอย่างมีนัยสำคัญให้กับบริษัทฯ
นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดทำแผนการปฏิรูปธุรกิจ โดยมีผู้นำบริหารการขับเคลื่อนการปฏิรูปธุรกิจ (Chief Transformation Officer-CTO) เป็นผู้ผลักดันให้พนักงานทั้งองค์กรทำงานอย่างเป็นระบบ
2.การดำเนินการให้บริษัทนมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามปกติ โดยแผนการปฏิรูปธุรกิจนั้นเกิดจากการศึกษาวิเคราะห์ธุรกิจ และการแสวงหาโอกาสพัฒนาธุรกิจโดยละเอียด โดยบริษัทได้ริเริ่มโครงการมากกว่า 600 โครงการ ซึ่งได้เริ่มดำเนินโครงการตามแผนแล้วและมีความคืบหน้าอย่างชัดเจน แผนการปฏิรูปธุรกิจที่สำคัญ ได้แก่
- การปรับลดขนาดฝูงบิน และปรับลดแบบเครื่องบินและแบบเครื่องยนต์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารกำลังลูกเรือและลดต้นทุนในด้านการซ่อมบำรุง
- การปรับปรุงสัญญาเช่าเครื่องบินและการเจรจาต่อรองปรับลดค่าเช่าเครื่องบินอย่างมีนัยสำคัญทั้งในรยะยะสั้นและระยะยาว
- การปรับเปลี่ยนเส้นทางการบิน และยกเลิกเส้นทางที่ทับซ้อนและให้ผลตอบแทนต่ำ
- การปรับลดขนาดองค์กรและขั้นตอนการบังคับบัญชา รวมถึงปรับปรุงสวัสดิการของพนักงานให้มีความเหมาะสม เป็นต้น
หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น อาจทำให้มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งส่งผลในทางบวกแก่ธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจการบินอย่างมีนัยสำคัญ โดยบริษัทเชื่อว่าการเปิดรับนักท่องเที่ยวและแผนการปฏิรูปธุรกิจของบริษัทจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยทำให้กำไรสุทธิของบริษัทฯกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง
3.กำหนดระยะเวลาดำเนินการ
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.64 ผู้ทำแผนได้นำส่งแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะจัดประชุมเจ้าหนี้ของบริษัทฯเพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูฯ คาดว่าจะจัดขึ้นในวันที่ 12 พ.ค.64 โดยหากเจ้าหนี้เห็นชอบแล้ว ศาลจะนัดพิจารณาแผนฟื้นฟูฯ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนหลังจากการประชุมเจ้าหนี้ หรือในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.64 โดยหากศาลมีคำสั่งเห็นชอบและตั้งผู้บริหารแผน บริษัทจะเร่งดำเนินการตามแผนที่ระบุในแผนฟื้นฟูกิจการอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ตามประมาณการของบริษัท ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการในเบื้องต้น บริษัทฯจะกลับมามีกำไรจากการดำเนินงานตามปกติจากธุรกิจหลักได้ในปี 2566 และส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯจะกลับมามีค่ามากกว่าศูนย์ได้ในปี 73 ซึ่งหากพิจารณาประกอบกับข้อกำหนดของตลท.ที่ให้ระยะเวลาบริษัทในการแก้ไขเหตุเพิกถอนให้หมดไปภายใน 3 ปีนับแต่วันที่ 8 มี.ค.64 แล้ว บริษัทอาจจะยังไม่สามารถแก้ไขเหตุเพิกถอนให้หมดไปได้ทัน กรณีนี้จึงอาจเข้าข่ายที่ตลท.จะเสนอคณะกรรมการ ตลท.เพื่อพิจารณาเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มี.ค. 64)
Tags: THAI, การบินไทย, สายการบิน, แผนฟื้นฟูกิจการ