หุ้น PACO ปิดเทรดวันแรกที่ 3.98 บาท เพิ่มขึ้น 2.58 บาท (+184.29%) จากราคาขาย IPO ที่ 1.40 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 3,102.51 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 3.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 4.20 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 3.30 บาท
บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า บมจ.เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ (PACO) เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องปรับอากาศรถยนต์ทดแทนในตลาดชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทนให้แก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้ตราสินค้า “PACO” ผลิตภัณฑ์หลัก คือ คอยล์ร้อน (condenser) และคอยล์เย็น (evaporator) ปัจจุบันมีสินค้ามากกว่า 2,600 รุ่น ครอบคลุมหลากหลายแบรนด์ของยานยนต์ทุกประเภท ทั้งนี้ ในปี 2563 มีสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศ 46.6% และต่างประเทศ 53.4% โดยการส่งออกผลิตภัณฑ์ครอบคลุมถึงทวีปเอเชีย อเมริกาเหนือ ยุโรป อเมริกาใต้ และออสเตรเลีย
มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IP0 1,400 ล้านบาท หุ้นที่ขาย IPO 260 ล้านหุ้น เสนอขาย IPO จำนวนไม่เกิน 195 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 39 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน จำนวนไม่เกิน 26 ล้านหุ้น ราคา IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 18.42 เท่า ขณะที่ PE อุตสาหกรรม (SET) อยู่ที่ระดับ 35 เท่า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 64)
Tags: IPO, PACO, หุ้นไทย, เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์, โกลเบล็ก