นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD) กล่าวว่า บริษัทฯ วางเป้าหมายระยะยาว 5 ปี (64-68) จะมีรายได้รวมแตะระดับ 12,000 ล้านบาท โดยจะมาจากอสังหาริมทรัพย์ 80% แบ่งเป็น อสังหาริมทรัพย์เพื่อขายจะอยู่ที่สัดส่วนอยู่ที่ 65%, รายได้ประจำ (สำนักงาน, โรงแรม) สัดส่วนเพิ่มเป็น 8%, รายได้จากงานบริการ (ดำเนินการภายใต้บริษัท เอ็มดีพีซี จำกัด หรือ MDPC) สัดส่วนเพิ่มเป็น 7% ส่วนอีก 20% จะมาจากรายได้ธุรกิจใหม่ (New Business) โดยเบื้องต้นคาดในช่วงปลายปี 64 จะเริ่มเห็นการลงทุนใน 2 ธุรกิจใหม่
“ธุรกิจใหม่จะเข้ามาช่วยหนุนการเติบโตอย่างมากในอนาคต และในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เราก็ยังมีการเติบโตในทุกๆปีเฉลี่ยราว 5% ต่อปี โดยในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เราเน้นที่ผู้บริโภคระดับกลางไปถึงบน ยังมีความต้องการอยู่ในตลาดและในช่วงที่สถานการณ์ไม่ปกติก็ยังสามารถขายได้”
นางสาวเพชรลดา กล่าว
ทั้งนี้วางงบลงทุนรวมในปี 64 ไว้ที่ 150 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับ 1.สินค้าและบริการที่เกี่ยวกับสุขภาพ (Healthsape) ในปีนี้คาดใช้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท และใน 5 ปีจะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 500 ล้านบาท 2. เทคโนโลยี (Techsape) ในปีนี้คาดใช้งบลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท และใน 5 ปีจะใช้งบลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นความชัดเจนของธุรกิจในช่วงปลายปีนี้
ด้านงบลงทุนในการซื้อที่ดินโดยปกติจะใช้อยู่ที่ 20% ของมูลค่าโครงการใหม่ที่จะเปิดในปีถัดๆไป โดยเบื้อต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 2,000 ล้านบาทในการซื้อที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในปี 65
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มี.ค. 64)
Tags: MJD, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, เพชรลดา พูลวรลักษณ์, เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์