นายณัทธร กิจสำเร็จ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการเงินและบัญชี บมจ. อมตะ วีเอ็น (AMATAV) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปี 64 จะสามารถกลับมาเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดจากปีก่อนที่มีรายได้ 534.36 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนมาจากยอดขายและยอดโอนที่ดินจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลองและนิคมอุตสาหกรรมลองถั่น ไม่น้อยกว่า 50 เฮคตาร์
จากปีก่อนที่บริษัทแทบจะไม่มีรายได้จากการขายที่ดินเลย เนื่องจากไม่มีพื้นที่ที่พัฒนารองรับการจำหน่าย จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้การทำงานต่างๆยากขึ้น
โดยในปีนี้สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัวโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้ปัจจุบันนิคมฯอมตะซิตี้ ฮาลองมีลูกค้าที่เซ็นบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) แล้วจำนวน 60 เฮคตาร์ และมีลูกค้าที่เซ็นสัญญาและตกลงจ่ายเงินแล้วจำนวน 30 เฮคตาร์ ซึ่งคาดว่าจะมียอดซื้อและยอดโอนได้ภายในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 40 เฮคตาร์ ขณะที่ในส่วนนิคมฯลองถั่นปัจจุบันมีลูกค้าที่สนใจซื้อที่ดินแล้วประมาณ 3 ราย จำนวน 10 เฮคตาร์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยโอนยอดโอนที่ดินเพิ่มขึ้นในข่วงครึ่งปีหลัง และคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับงบลงทุนในปีนี้ยังคงไว้ตามแผนที่ 3,000-5,000 ล้านบาท เพื่อที่จะใช้ในการลงทุนขยายพื้นที่เพิ่มและก่อสร้างระบบต่างๆในนิคมฯอมตะซิตี้ ฮาลองและนิคมฯลองถั่นประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาท และที่เหลือใช้ในการลงทุนในนิคมฯ Amata City Bienhoa รองรับความต้องการที่ดินที่มีเพิ่มขึ้นในปีนี้และต่อๆไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มี.ค. 64)
Tags: AMATAV, MOU, ณัทธร กิจสำเร็จ, ลองถั่น, อมตะ วีเอ็น, อมตะซิตี้, อมตะซิตี้ ฮาลอง