SIRI จูงมือ SCB ผุดโครงการช่วยเอสเอ็มอีกลุ่มลูกบ้าน-คู่ค้านำร่อง 6 กลุ่มธุรกิจ

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานกรรมการ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภายใต้โครงการ “SANSIRI x SCB: BUILD FOR ALL สร้างไปด้วยกัน” เพื่อเป็นต้นแบบสร้างการรับรู้เพื่อกระตุ้นให้องค์กรขนาดใหญ่เข้ามาช่วยเหลือเอสเอ็มอีฝ่าวิกฤติ

จากการร่วมมือกันในครั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายการเข้าช่วยเหลือเอสเอ็มอีในปี 64 จำนวน 1,500 ราย หรือคิดเป็นวงเงินการช่วยเหลือรวม 7 พันล้านบาท โดยเป็นวงเงินอุดหนุนสินค้าจากเอสเอ็มอีจาก SIRI 6 พันล้านบาท และเงินสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจจาก SCB วงเงิน 1 พันล้านบาท โดยกลุ่มเอสเอ็มอีเป้าหมายที่จะเข้าไปช่วยเหลือในโครงการนำร่องมี 6 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างกลุ่มธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายใน กลุ่มงานบริการด้านที่อยู่อาศัย และกลุ่มธุรกิจอาหาร

“SANSIRI x SCB: BUILD FOR ALL สร้างไปด้วยกัน” เปิดกว้างโอกาสสำหรับเอสเอ็มอีรายเล็กทุกราย ประกอบด้วย เอสเอ็มอีรายเล็กทั่วไป ลูกบ้าน SIRI ที่ประกอบธุรกิจ และคู่ค้ากลุ่มผู้ประกอบการของ SIRI ภายใต้ 5 กลยุทธ์ ได้แก่

  1. สร้างรายได้ให้เพิ่ม (Buy) ด้วยการเข้าซื้อสินค้าจากเอสเอ็มอีที่มีขนาดเล็ก
  2. สร้างช่องทางการเข้าถึงลูกค้า (Reach) เช่น การเพิ่มช่องทางการโปรโมทธุรกิจสินค้า และบริการของเอสเอ็มอีด้วยช่องทางสื่อออนไลน์ของ SIRI และ SCB รวมถึงโปรโมทผ่าน SIRI แฟมิลี่ที่มีอยู่ในการดูแลกว่า 100,000 ครอบครัว
  3. สร้างตลาดใหม่บนโลกออนไลน์ (Transformation) ด้วยการขยายตลาดของเอสเอ็มอีไทยสู่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ เช่น NocNoc.com ตลาดออนไลน์วัสดุก่อสร้างและของแต่งบ้านครบวงจร, Robinhood แอปพลิเคชั่น Food Delivery เพื่อผู้ประกอบการรายเล็กและ WeChef แพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวม Food Truck ของไทย
  4. สร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ (Enhance) โดย SCB จะนำ Tech Efficiency Program เข้ามาช่วยด้านการลดต้นทุนให้กับเอสเอ็มอีอย่างมีประสิทธิภาพ และ 5.สร้างสภาพคล่อง (Financial Flexibilities) โดย SCB จะให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อธุรกิจที่ให้กับเอสเอ็มอีด้วยวงเงินรวมทั้งสิ้น 1 พันล้านบาท

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร SCB กล่าวว่า SCB ตระหนักถึงความสำคัญของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ จึงพร้อมจะสนับสนุนและยืนหยัดอยู่เคียงข้างเอสเอ็มอีในทุกวิกฤติ ตลอดเวลาหนึ่งปีของสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น โดยธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง ทั้งความช่วยเหลือทางการเงินในรูปแบบต่างๆ การช่วยหาช่องทางการขายเพื่อสร้างรายได้ใหม่ รวมถึงการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับตัวเพื่อรับมือภาวะผันผวนของเศรษฐกิจในช่วงแรกได้ให้ความช่วยเหลือรวมแล้วกว่า 402,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ความช่วยเหลือจากธนาคารอย่างเดียวคงไม่เพียงพอที่จะช่วยให้เอสเอ็มอีทั้งระบบก้าวพ้นวิกฤตินี้ไปได้ จึงเล็งเห็นโอกาสที่จะผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ของประเทศ เพื่อร่วมกันช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในวงกว้างขึ้น โดยธนาคารยินดีที่จะให้ความร่วมมือใน 3 ส่วนหลัก ได้แก่ การสนับสนุนวงเงินสินเชื่อธุรกิจรวม 1 พันล้านบาท เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจแก่เอสเอ็มอีไทยที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 1.99% เป็นระยะเวลา 3 เดือนแรก ให้กับกลุ่มลูกบ้าน SIRI ที่ประกอบธุรกิจ รวมถึงคู่ค้ากลุ่มผู้ประกอบการในเครือข่าย SIRI ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ได้อย่างราบรื่น

พร้อมทั้งยังมอบองค์ความรู้เพื่อเสริมศักยภาพทางด้านดิจิทัลและลดต้นทุนแก่กลุ่มผู้ประกอบการซัพพลายเชนของ SIRI ผ่านการจัดอบรมสัมมนา และ Business Matching เพื่อเปิดโอกาสพบคู่ค้ารายใหม่ของธนาคาร และสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารให้เข้าสู่แอปพลิเคชันโรบินฮู้ด (Robinhood) แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียมการใช้แพลตฟอร์มช่วยเพิ่มช่องทางขายการนอกเหนือจากหน้าร้าน ทั้งนี้ รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยซึ่งเป็นลูกบ้านของ SIRI อีกกว่า 1,000 ครอบครัว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (9 มี.ค. 64)

Tags: , , , , , , , , ,
Back to Top