นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีทรัพยากรที่เพียงพอในการผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
“นี่เป็นร่างกฎหมายที่จะช่วยเยียวยาชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเราคาดว่าเราจะมีทรัพยากรที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง”
นางเยลเลนกล่าว
นางเยลเลนคาดการณ์ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวจะทำให้สหรัฐมีการจ้างงานเต็มศักยภาพกลับสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในปีหน้า
ต่อข้อถามที่ว่า การใช้จ่ายตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจร้อนแรงเกินไป จะส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อหรือไม่ นางเยลเลนกล่าวว่า ตนไม่คาดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น “แต่ถ้าหากทำให้เกิดเงินเฟ้อ เราก็ยังมีเครื่องมือในการรับมือปัญหาดังกล่าว ซึ่งเราจะจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด”
ขณะเดียวกัน นางเยลเลนระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะได้รับการแก้ไขจากการที่สภาคองเกรสออกร่างกฎหมายฉบับใหม่
ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 50 ต่อ 49 ผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้ ประกอบด้วยงบประมาณ 4 แสนล้านดอลลาร์เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวอเมริกันคนละ 1,400 ดอลลาร์ โดยเป็นการให้เงินช่วยเหลือครั้งเดียว นอกจากนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวยังรวมถึงมาตรการช่วยเหลือคนว่างงานต่อเนื่องสัปดาห์ละ 300 ดอลลาร์ โดยครอบคลุมชาวอเมริกันราว 9.5 ล้านรายที่ตกงานอันเนื่องจากผลกระทบของโควิด-19
วุฒิสภาสหรัฐจะส่งกลับร่างกฏหมายที่อนุมัติแล้วให้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐพิจารณาทบทวนในวันพรุ่งนี้ ซึ่งหากผ่านการอนุมัติ ก็จะส่งต่อไปยังปธน.ไบเดนเพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไปก่อนวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานในปัจจุบันจะหมดอายุลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มี.ค. 64)
Tags: กระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ, เงินเฟ้อ, เจเน็ต เยลเลน, เศรษฐกิจสหรัฐ, โจ ไบเดน