รัฐบาลเวเนซุเอลาประกาศในวันพุธ (24 ก.พ.) ว่า นางอิซาเบล บริลฮานเต เปโดรซา เอกอัครราชทูตของสหภาพยุโรป (EU) ประจำเวเนซุเอลา เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา และให้เดินทางออกจากเวเนซุเอลาภายใน 72 ชั่วโมง
นายฮอร์เก อาร์เรอาซา รัฐมนตรีฝ่ายกิจการต่างประเทศของเวเนซุเอลากล่าวหลังการประชุมกับนางบริลฮานเตว่า “เราได้ตัดสินใจประกาศให้นางอิซาเบล บริลฮานเต ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้แทน EU เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา” พร้อมเสริมว่า “เราต้องดำเนินการเช่นนี้เพราะสถานการณ์บังคับ”
นายอาร์เรอาซากล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลัง EU ทำการตัดสินใจ 55 ครั้ง ซึ่งเป็นการคว่ำบาตรต่อเวเนซุเอลาใน EU หรือในสหรัฐ
นายอาร์เรอาซาอธิบายว่า การกระทำของ EU เป็นการแทรกแซง และกฎบัตรสหประชาชาติก็ยินยอมให้มีมาตรการบีบบังคับต่อประเทศใดๆ ได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) แล้วเท่านั้น
นายอาร์เรอาซาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ยุโรปดำเนินการวิเคราะห์ไตร่ตรองเพื่อให้เลิกการแทรกแซง และเปลี่ยนทัศนคติที่แข็งกร้าว
“เราหวังว่ายุโรปจะเปลี่ยนท่าทีเป็นการสร้างความสัมพันธ์ด้วยความเคารพ” นายอาร์เรอาซากล่าว
นายอาร์เรอาซาระบุด้วยว่า นายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาเคยแสดงความใจกว้างเมื่อเดือนก.พ. 2562 ที่ยอมให้คณะทูตจากยุโรปที่ไม่ยอมรับนายมาดูโรอยู่ในเวเนซุเอลา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประกาศให้เอกอัครราชทูต EU เป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา” นั้นมีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจาก EU ตัดสินใจคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐบาลของเวเนซุเอลาจำนวน 19 ราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.พ. 64)