นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขาเชื่อมั่นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งนำเสนอโดยคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนนั้น จะช่วยเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และจะช่วยหนุนอัตราเงินเฟ้อให้ดีดตัวขึ้น โดยที่จะไม่ส่งผลให้เศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะขยายตัวร้อนแรงเกินไป
“ผมไม่คิดว่ามาตรการที่มีวงเงินประมาณนี้จะทำให้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่ร้อนแรงเกินไป ผมคิดว่ามาตรการนี้อาจจะทำให้เฟดบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อในไม่ช้านี้”
นายอีแวนส์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.ไบเดนได้พบปะกับสมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคเดโมแครตที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยความหวังที่จะผลักดันมาตรการดังกล่าวให้ผ่านการอนุมัติของสภาคองเกรส แม้เผชิญเสียงท้วงติงเกี่ยวกับวงเงินที่สูงถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จากสมาชิกพรรครีพับลิกัน
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชื่อว่า “American Rescue Plan” วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจให้สามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของปธน.ไบเดนประกอบด้วยการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากระดับ 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมงในปัจจุบัน สู่ระดับ 15 ดอลลาร์, เพิ่มวงเงินในการส่งเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันเป็นคนละ 2,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่ได้คนละ 600 ดอลลาร์ และเพิ่มวงเงินช่วยเหลือคนตกงานเป็น 400 ดอลลาร์/สัปดาห์ โดยให้ขยายโครงการช่วยเหลือไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย.ปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.พ. 64)
Tags: American Rescue Plan, ค่าแรง, ชาร์ลส์ อีแวนส์, ธนาคารกลางสหรัฐ, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ, สหรัฐ, เงินเฟ้อ, เฟด, โจ ไบเดน