กระทรวงการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์เปิดเผยข้อมูลในวันนี้บ่งชี้ว่า ในปี 2563 ฟิลิปปินส์สูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวราว 4 แสนล้านเปโซ (กว่า 8.3 พันล้านดอลลาร์) เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างรุนแรงท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายโรเบอร์โต อาลาบาโด ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งฟิลิปปินส์ เปิดเผยต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า ในปี 2563 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนฟิลิปปินส์เพียง 1.3 ล้านคนเท่านั้น โดยลดลงกว่ามากกว่า 80% จากระดับ 8.3 ล้านคนในปี 2562
เขากล่าวเสริมว่า การลดลงอย่างรุนแรงของจำนวนนักท่องเที่ยวส่งผลกระทบต่อตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวราว 5.7 ล้านตำแหน่ง
“การลดลงดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างหนัก เพราะเราประมาณการว่า เราจะสูญเสียรายได้ราว 4 แสนล้านเปโซ เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว”
นายอาลาบาโดกล่าวกับสมาชิกรัฐสภา
สำนักงานสถิติฟิลิปปินส์ (PSA) ระบุว่า ในปี 2562 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วน 12.7% ของเศรษฐกิจฟิลิปปินส์
นายอาลาบาโดเน้นย้ำถึงความสำคัญในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้มีส่วนช่วยหนุนเศรษฐกิจของประเทศ
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ฟิลิปปินส์และอีกหลายประเทศต้องบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์และปิดประเทศเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ซึ่งทำให้กิจกรรมการท่องเที่ยวต้องหยุดชะงักจนส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการและลูกจ้างจำนวนมาก
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ยังคงบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์หลายรูปแบบในพื้นที่ต่างๆ ขณะที่มียอดผู้ติดเชื้อโควิดรวม 528,853 ราย และมีผู้เสียชีวิต 10,874 ราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (3 ก.พ. 64)
Tags: ท่องเที่ยว, ฟิลิปปินส์, เศรษฐกิจฟิลิปปินส์, โรเบอร์โต อาลาบาโด