นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้เห็นชอบกรอบวงเงินและรายละเอียดคำของบประมาณประจำปี 2564 จำนวน 275.02 ล้านบาท สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกรอบความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (BIMSTEC) และการประชุมที่เกี่ยวข้องใน ปี 2565 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างเดือน มิ.ย.64 – ก.ย.65
สำหรับประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการเป็นประธาน BIMSTEC
1. การใช้โอกาสการเป็นประธาน BIMSTEC ของไทยอย่างเต็มที่ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคม การเชื่อมโยงทางการค้าและการผลิตเข้าสู่ห่วงโซ่การผลิตระหว่างภูมิภาค ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพประชาชนไทยกลุ่มต่าง ๆ รวมทั้งผ่านการเผยแพร่แนวคิด Bio-Circular-Green Economy (BCG) Model
2. การเล่นบทบาท “ผู้เชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียใต้กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าด้วยกัน” มีความสำคัญต่อการต่างประเทศของไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งการบริหารจัดการประเด็นต่าง ๆ ในภูมิภาค เช่น ส่งเสริมให้อินเดียมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในภูมิภาคและส่งเสริมให้เมียนมามีปฏิสัมพันธ์และเข้าร่วมในกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคอย่างมีเสรีภาพ ตลอดจนการรักษาดุลยภาพของอิทธิพลจากประเทศมหาอำนาจ เพื่อส่งเสริมความมั่นของประเทศในระยะยาว โดยการมีบทบาทกำหนดบริหารจัดการและจัดลำดับความสำคัญในประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่ขั้นต้น
3. การเป็นเจ้าภาพการประชุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งการประชุมระดับผู้นำ เป็นโอกาสกระตุ้นเศรษฐกิจและจ้างงาน รวมทั้งพัฒนาศักยภาพภาคส่วนต่าง ๆ ของไทยให้รักษาความโดดเด่นและมีมาตรฐานทัดเทียมนานาชาติ
อนึ่ง กลุ่ม BIMSTEC ประกอบด้วย บังกลาเทศ ภูฎาน อินเดีย เมียนมา เนปาน ศรีลังกา และไทย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.พ. 64)
Tags: BIMSTEC, อนุชา บูรพชัยศรี