สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานโดยอ้างสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้แจ้งเตือนบรรดาซัพพลายเออร์ของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน โดยได้แจ้งให้ทราบว่าทางการสหรัฐกำลังจะยกเลิกใบอนุญาตที่เคยเปิดทางให้บริษัทเหล่านี้ทำงานกับหัวเว่ยได้ และทางกระทรวงจะไม่รับคำขอใบอนุญาตดังกล่าวเพิ่มเติมหลังจากนี้ด้วย
รายงานข่าวระบุว่า ซัพพลายเออร์ของหัวเว่ยที่ได้รับการแจ้งเตือนนั้นมีชื่อของบริษัทอินเทล คอร์ป รวมอยู่ด้วย ส่วนซัพพลายเออร์รายอื่นๆ ของหัวเว่ยยังรวมถึงซัมซุง, โตเกียวอิเล็กทรอน, แอดแวนเทสต์ และเลเซอร์เทค
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการแบนธุรกิจเทคโนโลยีจีนส่งท้ายก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะหมดวาระในเร็วๆ นี้
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ขึ้นบัญชีดำเสียวหมี่ คอร์ป ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 2 ของจีน โดยอ้างเหตุผลว่าบริษัทดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับกองทัพจีน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการกดดันจีน ก่อนที่นายโจ ไบเดน จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐในวันที่ 20 ม.ค.นี้
การที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนเป็นไปอย่างตึงเครียดมากที่สุดในรอบหลายสิบปี ทำให้สหรัฐพยายามกดดันให้รัฐบาลทั่วโลกบีบหัวเว่ย โดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มองว่า หัวเว่ยเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐ และเชื่อว่าอุปกรณ์ของหัวเว่ยอาจถูกใช้เพื่อทำการจารกรรมข้อมูลทางไซเบอร์ ขณะที่หัวเว่ยปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ในเดือนพ.ค. 2562 สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ยและบริษัทในเครือ และสั่งให้บริษัทของสหรัฐที่ต้องการส่งออกสินค้าให้กับบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำเหล่านั้น จะต้องขอใบอนุญาตจากทางการสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ม.ค. 64)
Tags: จีน, จีนสหรัฐ, ซัมซุง, สหรัฐ, หัวเว่ย, หัวเว่ย เทคโนโลยี่, อินเทล คอร์ป, เทคโนโลยี, เลเซอร์เทค, แอดแวนเทสต์, โดนัลด์ ทรัมป์, โตเกียวอิเล็กทรอน