นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง หรือ กองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนเปิดบัวหลวงทริกเกอร์ 9-21 (TRIGGER 9-21) สามารถทำผลตอบแทนได้ถึงเป้าหมาย 8% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยเวลาเพียง 4 เดือน เร็วกว่ากำหนดเวลาที่วางไว้ 12 เดือน โดยเข้าเงื่อนไขของการเลิกกองทุนไปเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2564 จากนั้นได้ทำการขายคืนอัตโนมัติคืนเงินให้กับผู้ลงทุนในวันที่ 14 มกราคม 2564 และผู้ลงทุนจะได้รับเงินในวันที่ 15 มกราคมนี้ ในราคาหน่วยลงทุนละ 10.8002 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 8% เมื่อเทียบกับราคาเริ่มต้นที่ 10 บาท
“วิธีการบริหารกองทุนทริกเกอร์ของกองทุนบัวหลวง เราใช้การจับจังหวะซื้อขายหุ้นรายตัวแตกต่างจากการลงทุนในกองทุนอื่นที่เน้นการลงทุนระยะยาว และในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนสูงและเป็นขาขึ้น ประกอบกับการคัดเลือกหุ้นที่แม่นยำของทีมผู้จัดการกองทุน จึงทำให้กองทุน TRIGGER 9-21 ทำผลตอบแทนได้ถึงเป้าหมาย 8% ในเวลาอันสั้น”
นายพีรพงศ์ กล่าว
นายพีรพงศ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากข่าวดีเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งจะนำไปสู่การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว อันเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทย ส่งผลให้มีเม็ดเงินจากต่างชาติไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง ในปีนี้ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าราคาหุ้น ณ ขณะนี้ยังไม่ได้สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ และต่างชาติเริ่มกลับมามีมุมมองบวกกับตลาดในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น ดังนั้น จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับการลงทุนในหุ้นไทย
ทั้งนี้ กองทุนบัวหลวงยังเชื่อมั่นว่าการลงทุนระยะยาว ยังเป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนที่จะทำให้ผู้ลงทุนประสบความสำเร็จบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ขณะเดียวกันในสภาวะการลงทุนที่เต็มไปด้วยความผันผวนอย่างปัจจุบัน ก็มีโอกาสหาผลตอบแทนเพิ่มเติมในรูปแบบของทริกเกอร์ฟันด์ด้วยเช่นกัน ซึ่งกองทุนบัวหลวงกำลังพิจารณารูปแบบกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่เหมาะสม เพื่อนำเสนอแก่ผู้ลงทุนต่อไปในอนาคต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ม.ค. 64)
Tags: TRIGGER 9-21, กองทุนบัวหลวง, ทริกเกอร์ 9-21, บลจ.บัวหลวง, พีรพงศ์ จิระเสวีจินดา