หุ้นไทยปิดเช้าบวก 3.11 จุด ขานรับมติโอเปกพลัสหนุนแรงซื้อกลุ่มพลังงานพยุงตลาด

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,509.76 จุด เพิ่มขึ้น 3.11 จุด (+0.21%) มูลค่าการซื้อขายราว 72,935 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งบวก-ลบ รับแรงซื้อจากกลุ่มโรงไฟฟ้าที่หุ้นบางตัวยัง Laggard – กลุ่มพลังงานหนุน ขานรับผลประชุมกลุ่มโอเปกพลัสหนุนราคาน้ำมันเด้งขึ้น ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่เผชิญแรงขายทำกำไรในช่วงรอผลเลือกตั้งวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจีย ส่วนการแพร่ระบาดโควิดในประเทศวันนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นมาเป็น 250 คน จากวานนี้ที่ลดลง ทำให้เผชิญแรงขายทำกำไระหว่างทาง บ่ายนี้อาจเผชิญแรงขายทำกำไร โดยให้แนวรับ 1,497 แนวต้าน 1,517 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,509.76 จุด เพิ่มขึ้น 3.11 จุด (+0.21%) มูลค่าการซื้อขายราว 72,935 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,512.93 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,497.36 จุด

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยมีแรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ยัง Laggard อยู่อย่างหุ้น EGCO, RATCH และกลุ่มพลังงานที่ขึ้นมาดีตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น หลังผลประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ที่มีมติคงการปรับลดกำลังการผลิตที่ 7.2 ล้านบาร์เรล/วัน ไปถึงเดือนก.พ. ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาที่กลุ่มพลังงานอีกครั้ง

ทั้งนี้ มองว่ากลุ่มโอเปกพลัสมีการดูแลราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาน้ำมันคงจะไม่ปรับตัวลงไปมาก โดยฝ่ายวิจัยคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปีนี้น่าจะแกว่งในกรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปัจจุบันแกว่งอยู่แถว 53 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็เผชิญแรงขายทำกำไรออกมาในช่วงรอผลเลือกตั้งวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจีย ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเด้งขึ้นมาเป็น 250 คน จากวานนี้ที่ลดลง ทำให้เผชิญแรงขายทำกำไรระหว่างทาง พร้อมให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯที่ออกมาในวันนี้ และติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่จะประกาศในวันศุกร์(8 ม.ค.) รวมถึงยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศอย่างใกล้ชิด

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯอาจจะต้องเผชิญแรงขายทำกำไร โดยให้แนวรับ 1,497 จุด ส่วนแนวต้าน 1,517 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

  • EA มูลค่าการซื้อขาย 7,568.51 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
  • KCE มูลค่าการซื้อขาย 6,208.60 ล้านบาท ปิดที่ 52.25 บาท เพิ่มขึ้น 7.75 บาท
  • IRPC มูลค่าการซื้อขาย 3,597.86 ล้านบาท ปิดที่ 4.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.38 บาท
  • GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,760.95 ล้านบาท ปิดที่ 82.75 บาท ลดลง 2.00 บาท
  • PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,372.50 ล้านบาท ปิดที่ 105.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ม.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top