ธนาคารยูโอบี ร่วมกับพีดับบลิวซี สิงคโปร์ และสมาคมฟินเทคสิงคโปร์ ทำการสำรวจความคิดเห็นบริษัทฟินเทคในอาเซียน 109 บริษัท
ผลสำรวจ “FinTech in ASEAN: Get up, Reset, Go!” บ่งชี้ว่า 4 ใน 5 ของบริษัทฟินเทคในภูมิภาคอาเซียนยังคงมุ่งหน้าขยายกิจการในอีกสองปีข้างหน้าแม้เผชิญความท้าทายอันเป็นผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19
ความเชื่อมั่นในศักยภาพของอาเซียนนี้เกิดจากแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างรวดเร็วในภูมิภาคอาเซียนท่ามกลางภาวะวิกฤต โดยในปีนี้มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรายใหม่มากกว่า 40 ล้านราย ซึ่งประชากรในภูมิภาคอาเซียนร้อยละ 70 ใช้อินเทอร์เน็ต และคาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปอีกในสิบปีข้างหน้าเนื่องด้วยบริการดิจิทัลต่างๆ อาทิ ตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์กลายเป็นสิ่งที่คนใช้กันทั่วไป
แนวโน้มระดับภูมิภาคนี้ทำให้บริษัทฟินเทคในอาเซียนมีโอกาสให้บริการโซลูชันการเงินดิจิทัลในด้านการชำระเงินและการกู้เงินทางเลือกแก่ประชากรที่มีการเชื่อมต่อเชิงดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น
หนทางหนึ่งที่บริษัทฟินเทคสามารถขยายบริการในภูมิภาคอาเซียนคือ การร่วมมือกับธนาคารเพื่อผนวกรวมจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกัน อย่างเช่นจุดให้บริการลูกค้าของธนาคารและสมรรถนะด้านเทคโนโลยีของบริษัทฟินเทค
รายงานระบุว่า บริษัทฟินเทคในภูมิภาคอาเซียนยังคงมีมุมมองบวกต่ออนาคตแม้เผชิญกับวิกฤตโรคระบาด โดย 2 ใน 3 ของบริษัทฟินเทคระบุว่า วิกฤตโรคระบาดไม่มีผลกระทบหรือส่งผลกระทบแง่บวกต่อแผนการระดมทุนในอนาคต (65%) และต่อการลงทุนในขั้นสุดท้าย (62%) นอกจากนี้ บริษัทฟินเทคส่วนใหญ่ในอาเซียน (87%) ยังกล่าวว่าบริษัทสามารถทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในช่วงหลังวิกฤตโรคระบาด โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรมและการสร้างการเติบโตของรายได้ในปีหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ธ.ค. 63)
Tags: พีดับบลิวซี สิงคโปร์, ฟินเทค, ยูโอบี, สมาคมฟินเทคสิงคโปร์, สิงคโปร์, อาเซียน, อินเทอร์เน็ต