น.ส.กุลยา ตันติเตมิท รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 2564 ใหม่ โดยมีแนวโน้มปรับลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 4.5% เป็นผลมาจากเศรษฐกิจไทยในปี 2563 ปรับตัวดีขึ้นจากที่คาด หลังจากที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ประกาศตัวเลข GDP ในไตรมาส 3/2563 ลดลง -6.4% ซึ่งดีกว่าที่กระทรวงการคลังคาดการณ์ไว้มาก ทำให้เชื่อว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2563 จะขยายตัวได้ดีกว่าที่กระทรวงการคลังเคยคาดการณ์ว่าจะลดลงมากถึง -7.7%
“การคาดการณ์เศรษฐกิจปี 64 เป็นเรื่องที่พูดได้ยาก เพราะเศรษฐกิจในปี 63 ฟื้นตัวดีกว่าที่คาด ทำให้ฐานปรับตัวสูง ก็อาจจะทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจในปีหน้าไม่โตเท่ากับ 4.5% ตามที่เคยคาดการณ์ไว้เดิม”
น.ส.กุลยา กล่าว
พร้อมระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2564 จะฟื้นตัวได้ดีกว่าปีนี้อย่างชัดเจน โดยเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของรัฐบาล ทั้งโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 วงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท และโครงการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม วงเงิน 2.1 หมื่นล้านบาท รวมกว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้มีเม็ดเงินไหลเวียนในระบบเศรษฐกิจ และช่วยให้ GDP ปีหน้าขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 0.2%
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ซึ่งจะต้องไม่มีการล็อกดาวน์อีกรอบสอง โดยประชาชนจะต้องร่วมมือกัน เพราะต้นทุนในการป้องกันต่ำกว่าการเยียวยา แต่ถ้ามีการล็อกดาวน์ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าปี 2563 ขณะที่การส่งออกไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามสัญญาณที่ดีขึ้นของประเทศคู่ค้า ได้แก่ จีน เวียดนาม และสหรัฐฯ
แต่ทั้งนี้ ยังต้องติดตามภาคบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 60% ของ GDP ว่าจะฟื้นตัวกลับมาได้เร็วแค่ไหน รวมทั้งต้องรอดูนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนใหม่ว่าจะมีการดำเนินนโยบายด้านการเงินและการคลังอย่างไร ส่วนประเด็นการเมืองภายในประเทศนั้น มองว่ายังไม่มีผลกระทบที่เป็นนัยสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2564
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ากระทรวงการคลังเตรียมพิจารณาขยายเวลาลดภาษีที่ดินสำหรับปี 2564 ออกไปอีก 1 ปี เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้ ซึ่งการจะดำเนินการใดๆ นั้น จะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร เพื่อนำเสนอให้ รมว.คลัง ได้พิจารณาก่อนส่งเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ธ.ค. 63)
Tags: GDP, กระทรวงการคลัง, กุลยา ตันติเตมิท, จีดีพี, เศรษฐกิจไทย