โบรกเกอร์ทองคำ มองสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (ไวรัสโควิด-19) ที่ส่งผลกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะดัชนีดาวน์โจนส์ของสหรัฐ ช่วยผลักดันราคาทองคำทำนิวไฮในรอบ 7 ปี
คาดการณ์ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นไปได้ต่อ ให้เป้า 1,700-1,777 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ขณะที่โบรกฯ บางเจ้าแนะระวังแรงขายทำกำไร
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากจีนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกที่กดตลาดหุ้นทั่วโลกให้ปรับตัวลง รวมทั้งตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดลักษณะ Inverted Yield Curve ที่เป็นสัญญาณเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย และเกิดสัญญาณสำคัญที่กองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำต่อเนื่องตั้งแต่ ม.ค.63 จนถึงปัจจุบันซื้อไปแล้วราว 40 ตัน
เมื่อเวลา 13.58 น.ราคาทองคำ (Gold spot) เคลื่อนไหวปรับขึ้นไปที่ 1,631.70 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ +11.70 เหรียญสหรัฐ
นายจรณเวท ศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายผู้แนะนำการลงทุน บริษัท คลาสสิก ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า นักลงทุนเข้ามาลงทุนทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยง โดยเฉพาะจากปัจจัยหลักการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (ไวรัสโควิด-19) ที่ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตนอกประเทศจีนเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลก โดยดัชนีหุ้นดาวน์โจนส์ปรับตัวลงมาก และมีโอกาสปรับตัวลงจากดัชนีที่เริ่มหักหัวลงมา
นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลดลง เพราะนีกลงทุนกลัวความเสี่ยง อีกทั้งกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำใหญ่ที่สุดเดินหน้าเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือน ก.พ.ซื้อไปแล้ว 30 ตัน ซึ่งวานนี้ซื้ออีก 2 ตัน
นายจรณเวท กล่าวว่า ปัจจัยเหล่านี้เป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ และมีแนวโน้มให้ราคาบวกต่อ โดยมีเป้าหมายในช่วงครึ่งแรกปี 63 ที่ราคา 1,777 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ จากปีที่แล้วปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ คาดว่าตัวเลข PMI ของเอเชีย ยุโรป สหรัฐ ออกมาไม่ดี ยิ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ
ด้านนางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากความกังวลผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยราคาขึ้นมาต่อเนื่องและวันนี้ทำจุดสูงสุด (นิวไฮ) ในรอบ 7 ปี ที่ 1,623 เหรียญ/ออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นไป 12% นับจากต้นปี 63 ที่ราคา 21,650 บาทมาเป็น 24,300 บาท รับผลดีจากราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้น และเงินบาทอ่อนค่ามาต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้เคลื่อนไหวที่ 31.50 บาท/ดอลลาร์
การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจทั่วโลก เทียบกับการแพร่ระบาดซาร์สที่มีอัตราตายมากกว่าไวรัสโควิด-19 แต่ไวรัสโควิด-19 มีการแพร่กระจายได้มากกว่า ประกอบกับ จีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่และมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก โดย GDP ของจีนมีขนาด 30% ของ GDP โลก และการท่องเที่ยวของคนจีนมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในแถบเอเชีย เมื่อคนจีนไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้จึงส่งผลกระทบต่อประเทศในแถบเอเชีย ทั้งโรงแรม ร้านค้า สายการบิน ต่างก็ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อการนำเข้าและการส่งออก ซึ่งจีนเป็นตลาดที่มีความสำคัญใน Top5 ของโลก
นอกจากนี้ ตลาดพันธบัตร เริ่มเห็นทิศทาง Inverted Yield Curve ที่เป็นสัญญาณเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย และกองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำต่อเนื่องโดยตั้งแต่ ม.ค.63 ถึงปัจจุบันซื้อไปแล้วจำนวนราว 40 ตัน
ในระยะสั้น YLG มองว่าราคาทองคำจะปรับขึ้นค่อนข้างสูงมากที่ 1,635 เหรียญสหรัฐ แต่ให้ระวังแรงขายทำกำไรออกมา ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,600-1,580 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ส่วนแนวต้านถัดไปมองที่ 1,700 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์
“ในช่วงสั้น YLG มองว่าราคาทองคำขึ้นไปค่อนข้างสูงมาก เราต้องรอดูว่า break ที่ 1,635 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ได้เป็นนิวไฮใหม่ ให้ระวังอาจ Take Profit แต่ถ้า Break 1,650 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ก็มองแนวต้านถัดไปที่ 1,700 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์”
นางสาวฐิภา กล่าว
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GLOBLEX) มองว่าราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปที่ 1,650-1,700 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ จากสถานการณ์ที่การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างหนักส่งผลดีต่อราคาทองคำ จากเดิมมีเป้าหมายราคาปีนี้ที่ 1,650 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และแนวต้านถัดไปมองที่ 1,780 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งขึ้นกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19
เนื่องจากการแพร่ระบาดเชื่อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจ ส่งให้ตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงชะลอตัว และกองทุน SPDR ยังซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง และถือครองทองคำสูงเป็นประวัติการณ์ จากต้นปี 63 อยุ่ที่ 895 ตัน เพิ่มขึ้น 38.94 ตัน มาที่ 933.94 ตัน และตลาดพันธบัตรก็เกิดลักษณะ Inverted Yield Curve คาดว่าภาวะเศรษฐกิจจะถดถอยใน 3-6 เดือน
ส่วนนายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานบริหารกลุ่มบริษัท ในเครือ MTS Gold แม่ทองสุก กล่าวว่า ราคาทองคำในต่างประเทศวันนี้ทำนิวไฮ และราคาทองคำในประเทศขึ้นมาที่ 24,100 บาท ตอบรับปัจจัยบวกจากราคาทองคำโลกและเงินบาทอ่อนค่า ทั้งนี้ คาดว่าราคาทองคำในปีนี้น่าจะไปถึง 1,700-1,750 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ จากปัจจัยการชะลอตัวเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 และสถานการณ์คงยังไม่จบเมื่อเทียบกับโรคซาร์สที่ใช้เวลา 8 เดือนกว่าจะหยุดการแพร่ระบาด
“แต่เชื่อว่าโควิด-19 มาเร็วก็ไปเร็ว ถามว่าซื้อได้ไหม ถ้าถือระยะสั้นก็ซื้อได้ แต่ถ้าซื้อแล้วถือยาว ให้รอย่อตัวก่อน คาดน่าจะมีจุดนิวไฮมากกว่านี้”
นายณัฐพงศ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 63)
Tags: Consensus, COVID-19, GoldSpot, ทองคำ, ราคาทอง