นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้แสดงความเชื่อมั่นว่า พัฒนาการทางเศรษฐกิจของจีนมีโอกาสที่จะกลับสู่ระดับที่เหมาะสมมากขึ้นในปีหน้า โดยระบุว่า เศรษฐกิจจะกลับมาดีดตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังประสบภาวะถดถอยเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปีนี้
“เศรษฐกิจจีนอยู่ในช่วงฟื้นตัวและมีแนวโน้มการเติบโตเป็นไปในทิศทางบวกในปีนี้ หลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงในช่วงไตรมาสแรก” นายหลี่กล่าวในช่วงแถลงข่าวร่วมกับผู้นำจากสถาบันทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศทั้งหกแห่ง รวมถึงกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ด้วย
“เราคาดว่า เศรษฐกิจจีนจะกลับคืนสู่ในระดับที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้นได้ในปีหน้า นโยบายระดับมหภาคของจีนจะยังคงมีประสิทธิภาพ เสถียรภาพ และมีความยั่งยืน” นายหลี่กล่าว
นอกจากนี้ นายหลี่ยังเน้นย้ำถึงยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจของจีนที่ให้การบริโภคเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และค่อยๆ เปิดรับนักลงทุนจากต่างประเทศ นายหลี่ยังระบุว่า จีนไม่ได้จดจ่ออยู่กับยอดเกินดุลการค้า ซึ่งเป็นชนวนปัญหาที่สร้างแรงตึงเครียดระหว่างสหรัฐ
นายหลี่กล่าวว่า “เราจะไม่เอาแต่สร้างยอดเกินดุลการค้า แต่จะให้ความสำคัญกับการนำเข้าและการส่งออกอย่างเท่าเทียมกัน เพราะเราต้องการให้ดุลการค้ามีความสมดุลและมีการพัฒนาที่ยั่งยืน”
เมื่อเร็วๆ นี้ จีนได้จัดทำแผนเศรษฐกิจฉบับ 5 ปี และ 15 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ให้ขยายตัวได้สองเท่าภายในปี 2578 โดยมุ่งเน้นที่การพึ่งพาตนเองในด้านเทคโนโลยีและส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ย. 63)
Tags: IMF, กองทุนการเงินระหว่างประเทศ, หลี่ เค่อเฉียง, เศรษฐกิจจีน