นางสาวพันทิตา แซ่เอ็ง รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจวาณิชธนกิจ บล.ธนชาต ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง (SAK) เปิดเผยว่า กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 3.70 บาท/หุ้น โดยจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นในระหว่างวันที่ 26-27 และ 30 พฤศจิกายน 2563 และเริ่มเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันที่ 8 ธันวาคม โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า “SAK”
สำหรับการกำหนดราคา IPO มีขึ้นหลังจากได้สำรวจความต้องการซื้อ (Book Building) ของนักลงทุนสถาบัน เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับและแสดงความต้องการซื้อจากนักลงทุนสถาบันอย่างดีเยี่ยม รวมทั้งได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างมาก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ และแผนงานการเติบโตที่มีความชัดเจน โดยราคาเสนอขาย IPO นับว่ามีราคาเหมาะสมสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่ง จากศักยภาพการดำเนินธุรกิจ และโอกาสเติบโตจากแผนการรุกขยายธุรกิจในอนาคต
SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยแก่ประชาชนภายใต้ชื่อแบรนด์ “ศักดิ์สยาม” เสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 546 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 26% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยภายหลังการขายหุ้น IPO จะทำให้มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 2,096 ล้านบาท จาก 1,550 ล้านบาท ขณะที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปขยายการให้สินเชื่อและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการแก่ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
วันนี้ (24 พ.ย.) SAK ร่วมพิธีลงนามในสัญญาแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายหุ้น IPO โดยแต่งตั้งบล.ธนชาต เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 6 ราย ประกอบด้วย บล.บัวหลวง , บล.กสิกรไทย , บล.กรุงไทย ซิมิโก้ , บล.ฟินันเซีย ไซรัส , บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) และบล.ฟิลิป (ประเทศไทย) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่าย
นายพูนศักดิ์ บุญสาลี ประธานกรรมการบริหาร ของ SAK กล่าวว่า บริษัทมีวิสัยทัศน์ก้าวเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยระดับชาติ จากศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญนานกว่า 25 ปี เทียบเท่าบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรม จึงมีความเข้าใจในความต้องการสินเชื่อประชาชนเป็นอย่างดี ตลอดจนมีความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายสาขาที่ให้บริการ 519 สาขา (ณ วันที่ 30 มิ.ย.63) ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันตก ช่วยให้บริษัทสามารถให้บริการสินเชื่อรายย่อยให้แก่ประชาชน ภายใต้แนวคิด การดำเนินธุรกิจ การให้บริการอย่างเป็นธรรม เข้าใจและเข้าถึง ด้วยความโปร่งใส ซื่อสัตย์และจริงใจให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างสะดวก รวดเร็วและเป็นธรรม
ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายขยายธุรกิจให้เติบโตในทุกมิติภายในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 66 ทั้งจำนวนสาขาที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,119 สาขา ในทำเลพื้นที่ภูมิภาคเดิมและขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคอื่นๆ รวมถึงขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่มเป็น 12,000 ล้านบาท
นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ ของ SAK กล่าวว่า การระดมทุนครั้งนี้ ทำให้บริษัทก้าวขีดจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อไปขยายธุรกิจผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในทุกมิติจากแผนงานขยายผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้มีความหลายมากขึ้น รวมถึงนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจ ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าในเชิงลึก (Big Data) การเสนอสินเชื่อ พิจารณาอนุมัติสินเชื่อ รับชำระหนี้ บริหารหนี้สูญ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของบริษัท
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง รวมถึงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง จากผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2560-2562) พอร์ตสินเชื่อรวมมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 33.5% ส่งผลให้รายได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่อัตราการเติบโตเฉลี่ย 31.6% ต่อปี ในขณะที่ SAK สามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิ (NPM) ได้ในระดับสูงถึง 31-33%
ณ วันที่ 30 มิ.ย.63 บริษัทมีพอร์ตสินเชื่อรวม 6,067 ล้านบาท จากจำนวนสัญญาสินเชื่อรวม 230,273 สัญญา แบ่งเป็นลูกหนี้ที่มีหลักประกัน 88% และลูกหนี้ไม่มีหลักประกัน 12% ของพอร์ตสินเชื่อรวม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ย. 63)
Tags: IPO, SAK, บล.ธนชาต, พันทิตา แซ่เอ็ง, พูนศักดิ์ บุญสาลี, ศักดิ์สยามลิสซิ่ง, ศิวพงศ์ บุญสาลี