
นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่อีสานตอนบน “สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร” พรุ่งนี้ ก่อนการประชุม ครม.สัญจรนครพนม วันที่ 29 เม.ย.68 พร้อมเร่งขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล ทั้งการค้าชายแดน การท่องเที่ยว การลงทุนเชื่อมประเทศไทย-ลาว สู่เวียดนาม พร้อมลุยการแก้ไขปัญหายาเสพติด มั่นใจ ครม.ลงพื้นที่จริง จะนำไปแก้ปัญหาได้ตรงประเด็น
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ในวันอังคารที่ 29 เม.ย.68 ที่ จ.นครพนม นั้น นายกรัฐมนตรี ขอให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงลง พื้นที่ตรวจราชการและติดตามงานในทุกมิติ ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคอีสาน ในช่วงวันที่ 27-28 เม.ย. ก่อนการเข้าร่วมประชุม ครม.สัญจร
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่จังหวัดสกลนคร และนครพนม เพื่อตรวจราชการและติดตามผลการดำเนินงานของส่วนราชการต่าง ๆ ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร) ในวันพรุ่งนี้ (28 เม.ย.) และนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2568 ในวันอังคารที่ 29 เม.ย.68 ที่หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม จ.นครพนม
นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ 1 วันก่อนการประชุม ครม.สัญจร โดยในวันจันทร์ที่ 28 เม.ย.68 เวลา 08.45 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังสนามบินกองทัพบกค่ายกฤษณ์สีวะรา ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร และเดินทางต่อไปยังสวนสาธารณะดอนเกิน อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร เพื่อติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนแผนพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่บึงหนองหาร และการบริหารจัดการน้ำ
จากนั้น นายกรัฐมนตรี จะไปศูนย์หัตถกรรมวัดธาตุประสิทธิ์ อ.นาหว้า จ.นครพนม เพื่อเยี่ยมชมศูนย์หัตถกรรมวัดธาตุประสิทธิ์ “นาหว้าโมเดล” ตามแนวพระดำริ “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” จากนั้น จะเป็นประธานการประชุมติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติดข้ามแดนในพื้นที่ ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม อ.เมืองนครพนม
และในช่วงเย็นของวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีและคณะ จะร่วมสักการะพญาศรีสัตตนาคราช พร้อมจุดเรือไฟบก ที่ลานพนมนาคา ริมแม่น้ำโขง ในอำเภอเมืองนครพนม
ส่วนวันอังคารที่ 29 เม.ย.68 เวลาประมาณ 10.00 น. นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุม ครม.สัญจร ที่หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม
หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปที่ด่านศุลกากรนครพนม ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำโขงตรงข้ามประเทศลาว เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนในพื้นที่ เนื่องจากด่านศุลกากรนครพนม มีจุดผ่านแดนถาวรทั้งหมด 2 แห่ง คือ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน ลาว) ท่าเทียบเรือการท่องเที่ยวเทศบาลนครพนม รวมทั้งจุดผ่อนปรนการค้าอีก 4 แห่ง ได้แก่ จุดผ่อนปรนอำเภอท่าอุเทน จุดผ่อนปรนบ้านดอนแพง จุดผ่อนปรนอำเภอธาตุพนม และจุดผ่อนปรนบ้านหนาด
โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า การลงพื้นที่ภาคอีสานของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ทุกมิติ ทั้งการค้าขายระหว่างประเทศ การท่องเที่ยว การพัฒนาเมืองเ นื่องจากจังหวัดนครพนม และมุกดาหาร เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงเป็นจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศลาว ที่มีเส้นทางการคมนาคมหลักที่สามารถเชื่อมโยงไปยังประเทศเวียดนามตอนกลาง ที่เมืองดานังได้
“การลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรี จะทำให้รัฐบาลสามารถเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาต่อยอดทุกมิติ และแนวทางการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้จังหวัดสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ ไม่ว่าเป็นการท่องเที่ยว การค้าการลงทุน รวมถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งนี้เ มื่อปัญหายาเสพติดลดลง คุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ก็จะดีขึ้น” นายจิรายุกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 เม.ย. 68)
Tags: ครม.สัญจร, จิรายุ ห่วงทรัพย์, แพทองธาร ชินวัตร