นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 33.73 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากระดับปิดวันก่อน
โดยตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways มีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง ตามการทยอยแข็ง ค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด อาทิ ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก ที่ระดับ 2.23 แสนราย และดัชนีภาคการผลิตโดยเฟด สาขา Philadelphia
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบ Sideways ไปก่อน เพื่อรอรับรู้ปัจจัยใหม่ ๆ เพิ่มเติม ซึ่งระหว่าง วัน ควรจับตาการแถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย ในช่วง 10.00 น. โดย รมว.พาณิชย์ จะเป็นผู้แถลงข่าว ซึ่งอาจมี ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับรายงานยอดการค้าระหว่างประเทศ และแนวโน้มในอนาคต
“การแถลงข่าวดังกล่าว อาจมีประเด็นที่น่าสนใจ เช่น รายงานยอดการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีขึ้นต่อเนื่อง หรือดุลการค้าที่เกิน ดุลกว่าคาดได้ ซึ่งหากคาดการณ์ดังกล่าวเป็นจริง ก็อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้บ้าง” นายพูน ระบุ
อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากราคาทองคำยังมีทิศทางที่ไม่แน่นอน และเริ่มเสี่ยง เผชิญแรงขายเพิ่มเติมจากบรรดาผู้เล่นในตลาด ซึ่งหากราคาทองคำย่อตัวลงบ้าง หรืออยู่ในช่วงการพักฐาน ก็อาจกดดันให้เงินบาทมีจังหวะ อ่อนค่าลงบ้าง
นายพูน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.65-33.85 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 149.12 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นที่ระดับ 148.71/76 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0852 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0848/0849 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 33.640 บาท/ดอลลาร์
- กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนก.พ.68 ต้องติดตามว่ามูลค่าการส่งออกในเดือนนี้ จะ ยังสามารถขยายตัวได้ในระดับ 2 digit ต่อเนื่องจากเดือนม.ค.ที่ผ่านมาหรือไม่ ซึ่งขยายตัวสูงถึง 13.6% และประเมินว่าทิศทางการส่ง ออกไตรมาสแรกปีนี้ยังสดใส ลุ้นโตแตะ 7-10%
- จับตาแวดวงแบงก์ กำลังจะมี “บิ๊กดีล” ควบรวมกิจการระหว่าง “กรุงไทย-ทีทีบี” เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย “ผนึก” สร้างความ แข็งแกร่ง จ่อขึ้นแท่นเบอร์ 1 กลุ่มแบงก์ หลังควบรวมเสร็จในด้าน “สินทรัพย์รวม” กว่า 5.36 ล้านล้าน และฐานลูกค้า และยัง สามารถ “ลดต้นทุนธุรกิจ-สร้างโอกาสการเติบโต” ครั้งใหม่ พร้อมปูทางสร้างความแข็งแกร่งบน “ดิจิทัลแบงกิ้ง”
- ‘อิ๊งค์’ดินเนอร์แกนนำพรรคร่วม รบ.วันนี้ เตรียมสู้ศึกซักฟอก ลั่นตระกูล’ชินวัตร’ไม่มีดีลแลกประเทศ ‘โรม’ยันมีหลักฐาน มัดแน่น-ดิ้นไม่หลุด ขู่นายกฯเหนื่อย-รบ.สะเทือนแน่ พท.จัด 20 ขุนพลรับมือฝ่ายค้าน
- กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ของญี่ปุ่น ซึ่งไม่รวม อาหารสดที่มีความผันผวน เพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยชะลอตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน หลังจากที่ขยาย ตัว 3.2% ในเดือนม.ค. ซึ่งส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการที่รัฐบาลกลับมาให้เงินอุดหนุนค่าสาธารณูปโภค
- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.50% ในการ ประชุมวันนี้ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐฯ ลดลง 2.0% สู่ระดับ 3.039 แสนล้าน ดอลลาร์ในไตรมาส 4/2567 หลังจากแตะระดับ 3.103 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3/2567 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
- Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวลง 0.3% ในเดือน ก.พ. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวลงเพียง 0.2% หลังจากปรับตัวลง 0.2% ในเดือนม.ค. โดยดัชนี LEI ได้รับผลกระทบจากการ ร่วงลงของคำสั่งซื้อใหม่
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้นเพียง 2,000 ราย สู่ระดับ 223,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 224,000 ราย
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กใน วันพฤหัสบดี (20 มี.ค.) หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากการที่เจอโรม พา วเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่าเฟดจะไม่เร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย.,ก. ย.และธ.ค. แม้ว่าในรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้ง ในปีนี้
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 83.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25- 4.50% ในการประชุมเดือนพ.ค.
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (20 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่ง สัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
- นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะยังคงได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่ นอนทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ โดยนักวิเคราะห์จาก ANZ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะ พุ่งแตะระดับ 3,100 ดอลลาร์ภายในเวลา 3 เดือน ขณะที่ UBS ตั้งเป้าราคาทองที่ระดับ 3,200 ดอลลาร์ในปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 มี.ค. 68)
Tags: ค่าเงินบาท, อัตราแลกเปลี่ยน, เงินบาท