
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (20 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
- ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.60 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ 3,043.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวัน หลังจากเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25% – 4.50% ในการประชุมเมื่อวันพุธตามคาด และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
ในการประชุมครั้งนี้ เฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้ลงสู่ระดับ 1.7% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.1% และปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้ สู่ระดับ 2.8% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.5%
เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เฟดปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อนั้นมาจากมาตรการภาษีศุลกากร พร้อมกับกล่าวว่าการที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศต่าง ๆ นั้น จะส่งผลให้เฟดเผชิญกับความล่าช้าในการบรรลุเป้าหมายการสร้างเสถียรภาพด้านเงินเฟ้อ
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะยังคงได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ โดยนักวิเคราะห์จาก ANZ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะพุ่งแตะระดับ 3,100 ดอลลาร์ภายในเวลา 3 เดือน ขณะที่ UBS ตั้งเป้าราคาทองที่ระดับ 3,200 ดอลลาร์ในปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 มี.ค. 68)
Tags: COMEX, ทองคำนิวยอร์ก, ราคาทอง, ราคาทองคำ