สหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยแผนการเมื่อวันพุธ (19 มี.ค.) ระบุว่า ยุโรปควรเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารให้มากขึ้น รวมทรัพยากรสำหรับโครงการป้องกันร่วมกัน และซื้ออาวุธจากยุโรปมากขึ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับรัสเซียและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการคุ้มครองจากสหรัฐฯ ในอนาคต
คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU ได้บรรจุข้อเสนอนี้ในสมุดปกขาวด้านกลาโหม ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ยุโรปมีแผนป้องกันประเทศที่แข็งแกร่งและเพียงพอภายในปี 2573
คาจา คัลลาส หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของ EU กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงบรัสเซลส์ว่า “ระเบียบโลกกำลังเปลี่ยนแปลงในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี 2488 นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับความมั่นคงของยุโรป” โดยเศรษฐกิจของรัสเซียอยู่ในโหมดสงครามเต็มรูปแบบ ซึ่ง 40% ของงบประมาณรัฐบาลกลางถูกใช้ไปกับกองทัพ
ด้านประเทศสมาชิก EU ได้เริ่มเสริมสร้างการป้องกันของตนเองแล้วเพื่อตอบโต้การรุกรานยูเครนของรัสเซียในปี 2565 โดยเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมมากกว่า 30% ระหว่างปี 2564-2567 อย่างไรก็ตาม ความพยายามเหล่านี้เร่งด่วนมากขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ มีท่าทีที่เป็นมิตรต่อรัสเซีย และสหรัฐฯ เตือนว่า ความมั่นคงของยุโรปอาจไม่ใช่สิ่งที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกอีกต่อไป
อันเดรียส คูบิลิอุส กรรมาธิการด้านกลาโหมของยุโรปกล่าวว่า “พลเมืองสหภาพยุโรป 450 ล้านคนไม่ควรต้องพึ่งพาชาวอเมริกัน 340 ล้านคนเพื่อป้องกันตนเองจากชาวรัสเซีย 140 ล้านคน ซึ่งยังไม่สามารถเอาชนะชาวยูเครน 38 ล้านคนได้”
“เราสามารถทำได้ดีกว่านี้ ถึงเวลาที่เราต้องรับผิดชอบในการป้องกันยุโรปเองแล้ว”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 มี.ค. 68)
Tags: EU, รัสเซีย, สหภาพยุโรป, สหรัฐ