
สหราชอาณาจักร (UK) และสหภาพยุโรป (EU) เตรียมหารือกันเพื่อหาทางยึดทรัพย์สินของรัสเซียที่อายัดไว้ หวังนำไปใช้จ่ายด้านกลาโหมร่วมกัน ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังหาทางเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ก่อนที่จะมีการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามในยูเครน
กระทรวงการต่างประเทศของ UK เปิดเผยว่า เดวิด แลมมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ และคาจา คัลลาส นักการทูตระดับสูงของ EU จะหารือกัน ณ กรุงลอนดอนในวันนี้ (18 มี.ค.) ว่าด้วย “ความคิดริเริ่มใหม่ ๆ” เพื่อเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมของยุโรปและเสริมความพร้อมทางทหาร
แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า ในการหารือครั้งนี้ ยุโรปจะพยายามสร้างความชอบธรรมตามกฎหมายในการยึดทรัพย์สินของรัสเซียมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะถูกต่อต้านจากประเทศในยุโรปบางประเทศ เช่น เบลเยียมและเยอรมนี ซึ่งยังคงกังวลว่าการยึดทรัพย์สินของรัสเซียอาจละเมิดหลักการความคุ้มกันของรัฐ (state immunity) ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และส่งผลกระทบต่อเงินยูโรในที่สุด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความพยายามของยุโรปในการเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซียในครั้งนี้ เกิดขึ้นก่อนการเจรจาอีกครั้งระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีปูติน ในวันนี้ โดยสหรัฐฯ กำลังกดดันให้รัสเซียยอมรับข้อตกลงหยุดยิง 30 วัน ซึ่งทางยูเครนก็ยืนยันว่าพร้อมที่จะยอมรับข้อตกลงดังกล่าวเช่นกัน
ทั้งนี้ EU, G7 และออสเตรเลีย ได้อายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียมูลค่าราว 2.8 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งในรูปของหลักทรัพย์และเงินสด โดยส่วนใหญ่ผ่านทางยูโรเคลียร์ (Euroclear) ซึ่งเป็นบริษัทหักบัญชีในเบลเยียม นอกจากนี้ มาตรการคว่ำบาตรบุคคลสำคัญของรัสเซียยังส่งผลให้มีการอายัดทรัพย์สินอีกราว 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงบ้าน เรือยอตช์ และเครื่องบินส่วนตัว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มี.ค. 68)
Tags: กระทรวงการต่างประเทศ, รัสเซีย, วลาดิเมียร์ ปูติน, สหภาพยุโรป, สหราชอาณาจักร, อายัดทรัพย์สิน