นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์อาจอิงทางบวกได้เล็กน้อย หลังจากตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐเมื่อคืนนี้ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย เป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเปิดมาบวกไปในทิศทางเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงรอปัจจัยใหม่เข้ามาส่งผลต่อตลาดหุ้น โดยเฉพาะติดตามการประชุมธนาคารกลาสหรัฐ (เฟด) ในคืนวันพุธนี้จะทำให้ Dot plot เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ซึ่งตลาดคาดว่าจะเห็นการลดดอกเบี้ยของเฟด 3 ครั้งในปีนี้ รวมถึงวันนี้ยังรอติดตามปัจจัยในประเทศว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาบ้างเพิ่มเติมหรือไม่
โดยให้แนวต้าน 1,180 จุด แนวรับ 1,160 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (17 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,841.63 จุด เพิ่มขึ้น 353.44 จุด หรือ +0.85%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,675.12 จุด เพิ่มขึ้น 36.18 จุด หรือ +0.64% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,808.66 จุด เพิ่มขึ้น 54.58 จุด หรือ +0.31%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 37,868.57 จุด เพิ่มขึ้น 472.05 จุด หรือ +1.26% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 24,679.35 จุด เพิ่มขึ้น 533.78 จุด หรือ +2.21% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 3,434.57 จุด เพิ่มขึ้น 8.44 จุด หรือ +0.24%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 มี.ค.) 1,170.20 จุด ลดลง 3.56 จุด (-0.31%) มูลค่าการซื้อขาย 35,927.23 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (17 มี.ค.) 1,313.01 ล้านบาท
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.(17 มี.ค.) เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 67.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 มี.ค.) อยู่ที่ 4.12 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิดเช้า 33.58 ยังทรงตัวหลังแกว่งไซด์เวย์ ให้กรอบวันนี้ 33.50-33.75
– “นายกฯ แพทองธาร” เรียกก.ล.ต.-ตลท.-ดีเอสไอเข้าพบเพื่อหารือสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยและความคืบหน้าการดำเนินมาตรการสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุน เน้นย้ำ 4 เรื่องสำคัญ “ติดตามคดีเศรษฐกิจ-ปรับเกณฑ์ซื้อขาย-จัดการเรื่องฟรีโฟลตและบังคับใช้กฎหมาย” ฟาก “ทักษิณ” ผุดไอเดียซื้อหนี้ประชาชนออกจากระบบธนาคาร ปลดล็อกเครดิตบูโร เปิดโอกาสกลับมาทำมาหากินต่อไปได้
– สกพอ.เตรียมชงบอร์ดอีอีซี สู้เขตเศรษฐกิจพิเศษยะโฮร์-สิงคโปร์ ชี้พร้อมแข่งไทยหมัดต่อหมัด เผยอีอีซีเตรียมพร้อมไฟฟ้าหมุนเวียน สิทธิประโยชน์เว้นภาษีสูงสุด 15 ปี เปิดกลยุทธ์ปิดเกมเร็ว ดึงลงทุนที่กำลังเจรจา 1.3 แสนล้านบาท พร้อมเร่งโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟความเร็วสูง-อู่ตะเภา “บีโอไอ” ไม่หวั่นพร้อมสู้ ส.อ.ท.เตือนอย่าประมาทเร่งผลิตคน ป้อนลงทุนไฮเทค
– บอร์ด BOI อนุมัติส่งเสริมลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 4 โครงการใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 200,000 ล้านบาท ทั้งรถไฟฟ้า, ทางด่วน และดาต้าเซ็นเตอร์ หวังดึงดูดนักลงทุนระดับโลกย้ายฐานการลงทุนมายังประเทศไทย เป็นโอกาสสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการไทยในหลากหลายอุตสาหกรรมได้รับอานิสงส์
– 5 บิ๊ก บจ.ปรับทัพพับแผนไอพีโอใน “ตลาดหุ้นไทย” เหตุดัชนีฯ ดิ่งไม่หยุด สะท้อนภาพตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน”ติดลบ” 16.17% “ดับบลิวเอชเอ” ประกาศชะลอแผนสปินออฟ “ดับบลิวเอชเอไอดี” ย้ำเหตุตลาดผันผวนหนักกว่าคาด สื่อนอกชี้กองทุนพยุงหุ้นไทย “วายุภักษ์” ไม่เห็นผล เปิดตัว 7 เดือนแต่หุ้นไทยผลงานแย่สุดในโลก
– หอการค้าไทยชงรัฐขอแพ็กเกจสนับสนุนการลงทุน พัฒนาเครื่องจักรไปสู่อุตฯ สมัยใหม่ที่มีการใช้ AI และหุ่นยนต์ หวังช่วยปรับโครงสร้างการผลิตของไทย และขอเตรียมพร้อมรับ มือมาตรการการค้าสหรัฐ
หุ้นเด่นวันนี้
– WHA (กสิกรไทยป ราคาพื้นฐาน 4.72 บาท มองเชิงบวกหลังประกาศเลื่อนเข้าจดทะเบียนของ WHAID ซึ่งเคยประกาศไว้เมื่อ 20 ก.พ.ให้เหตุผลว่าภาวะตลาดปัจจุบันไม่เอื้อ คาดความต้องการซื้อที่ดินยังมีอีกมาก คาดยอดขายที่ดินนิคม (IE) ในไทยไตรมาส 1/68 ใกล้เคียง 717 ไร่ และ 758 ไร่ในไตรมาส 3/67 และไตรมาส 4/67 นอกจากนี้ WHA อยู่ระหว่างเจรจาจริงจังลูกค้ารายใหญ่สองรายซื้อที่ดินนิคม 400 ไร่ และ 600 ไร่ คาดข้อสรุปในไตรมาส 2/68 โดย WHA เผยอุตสาหกรรมที่มีดีมานด์สูง ได้แก่ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และ Data Center
– AP (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 10 บาท ปีนี้มีแผนเปิดโครงการใหม่สูงถึง 6.5 หมื่นล้านบาท (+35%y-y) แบ่งเป็นแนวราบ 36 โครงการ 4.5 หมื่นล้านบาท และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ 2 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 5.5 หมื่นล้านบาท และยอดโอน 5.3 หมื่นล้านบาท D/E ratio ต่ำเพียง 0.7 เท่า คาดอัตราปันผล 6.8% ต่อปี ขณะที่ Valuation เทรดเพียง 5.1 เท่า คาดหวังมาตรการกระตุ้นอสังหาฯเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ
– PTTGC (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 29.00 บาท แนวโน้มไตรมาส 1/68 ฟื้นตัว QoQ ด้วยธุรกิจโรงกลั่นกลับมาเดินเครื่องปกติ ขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมีส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ทั้งอะโรเมติกส์ โอเลฟินส์และโพลิเมอร์ทยอยฟื้น QoQ แม้ยังอยู่ในระดับต่ำแต่คาดหวังมาตรการตุ้นเศรษฐกิจจีนจะส่งผลบวกต่ออุปสงค์ ส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Allnex) ในยุโรปคาดผลไตรมาส 1/68 ดีขึ้นตามปริมาณขายเริ่มเข้าช่วง high season ส่วนปี 68 ประเมินภาพการฟื้นตัว โดยหลักมาจากไม่ต้องแบกภาระขาดทุนของ Vencorex ราว 3-4 พันล้านบาท และ PTTAC ราว 1 พันล้านบาท รวมถึงคาดไม่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายด้อยค่าก้อนใหญ่อีก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มี.ค. 68)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย