UN ชี้ กระแสต่อต้านมุสลิมเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล วอนแพลตฟอร์มออนไลน์คุมคอนเทนต์

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) กล่าวเมื่อวันศุกร์ (14 มี.ค.) ว่า มีการเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลในเรื่องของการเลือกปฏิบัติต่อชาวมุสลิมทั่วโลก พร้อมทั้งเรียกร้องให้บรรดาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีออนไลน์ควบคุมการแสดงความคิดเห็นที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและการคุกคาม

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อความผ่านวิดีโอจากกูเตอร์เรสออกมาก่อนวันต่อต้านกระแสหวาดกลัวอิสลามสากล ( International Day to combat Islamophobia) ในวันนี้ (15 มี.ค.) โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั่วโลกและ UN ได้สังเกตเห็นการเพิ่มขึ้นของกระแสหวาดกลัวอิสลามหรืออิสลามโฟเบีย อคติในการต่อต้านชาวอาหรับ และการต่อต้านชาวยิว นับตั้งแต่เริ่มต้นการโจมตีทางทหารของอิสราเอลต่อกาซา หลังกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566

“เรากำลังเผชิญกับการเพิ่มขึ้นของความเกลียดชังต่อชาวมุสลิมอย่างน่ากังวล จากการประเมินบุคคลโดยใช้เชื้อชาติและนโยบายที่เลือกปฏิบัติซึ่งละเมิดสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรี ไปจนถึงความรุนแรงโดยตรงต่อบุคคลและสถานที่สักการะ” กูเตอร์เรสกล่าว โดยไม่ได้ระบุถึงประเทศหรือรัฐบาลใดๆ โดยเฉพาะ

“บรรดาแพลตฟอร์มออนไลน์ต้องควบคุมการแสดงความคิดเห็นที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและการคุกคาม และเราทุกคนต้องออกมาพูดเพื่อต่อต้านความมีอคติ การเหยียดเชื้อชาติ และการเลือกปฏิบัติต่อผู้อื่น”

กลุ่มสิทธิมนุษยชนได้แสดงความกังวลมานานหลายปีเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติต่อชาวมุสลิมและชาวอาหรับ เนื่องจากบางคนมักจะรวมคนกลุ่มเหล่านี้เข้ากับกลุ่มก่อการร้ายอิสลาม

ขณะนี้ผู้ที่สนับสนุนปาเลสไตน์หลายคน รวมถึงในประเทศตะวันตกอย่างสหรัฐฯ ได้ร้องเรียนและกล่าวว่าการที่พวกเขารณรงค์เพื่อสิทธิของชาวปาเลสไตน์นั้นถูกวิจารณ์ว่าเป็นการสนับสนุนกลุ่มฮามาส ซึ่งไม่เป็นความจริง

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ตรวจสอบสิทธิมนุษยชนได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ความเกลียดชังต่อชาวมุสลิมและการแสดงความเกลียดชังในหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และอินเดีย ขณะที่รัฐบาลของประเทศเหล่านั้นระบุว่า พวกเขามุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มี.ค. 68)

Tags: , , ,
Back to Top