ทองคำนิวยอร์กปิดบวก $9.80 ทะลุระดับ 3,000 ดอลล์เป็นครั้งแรก

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกในวันศุกร์ (14 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 9.80 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 3,001.10 ดอลลาร์/ออนซ์

ไท หว่อง นักค้าโลหะอิสระกล่าวว่า การพุ่งขึ้นของสัญญาทองคำเหนือระดับ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐเกิดจากการที่นักลงทุนที่เข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยสูงสุด ท่ามกลางความปั่นป่วนในตลาดหุ้นที่เกิดจากทรัมป์

ทองคำมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยในปีนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแล้วเกือบ 14% ซึ่งเป็นผลจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายภาษีของทรัมป์ และการเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์

โอเล ฮันเซน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของแซกโซแบงก์ (Saxo Bank) ระบุว่า “ผู้จัดการกองทุนสินทรัพย์ โดยเฉพาะในโลกตะวันตก ต้องการเห็นตลาดหุ้นและเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างชัดเจนก่อนจะกลับเข้าสู่ทองคำ และตอนนี้สิ่งนั้นกำลังเกิดขึ้น”

ความต้องการทองคำจากธนาคารกลางก็เป็นอีกปัจจัยหนุน โดยจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ ยังคงสะสมทองคำสำรองเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา

เดวิด รัสเซล ซีอีโอของโกลด์คอร์ (GoldCore) กล่าวว่า “ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงซื้อทองคำในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ เพื่อกระจายความเสี่ยงออกจากดอลลาร์สหรัฐที่มีความผันผวนเพิ่มขึ้น”

ความคาดหวังเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนจากดอกเบี้ย โดยนักลงทุนคาดว่า เฟดอาจเริ่มลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนมิ.ย.

ฮวน คาร์ลอส อาร์ติกัส หัวหน้าฝ่ายวิจัยระดับโลกของสภาทองคำโลก (World Gold Council) กล่าวว่า “มีเหตุผลที่ดีว่าทำไมความต้องการลงทุนในทองคำยังคงมีแนวโน้มแข็งแกร่ง…ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น การคาดการณ์เงินเฟ้อที่สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่อาจลดลง และความไม่แน่นอนในตลาด”

โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ระบุในบันทึกว่า มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ โดยทางธนาคารคาดการณ์ราคาทองคำสิ้นปี 2568 ไว้ที่ 3,100 ดอลลาร์สหรัฐ และอาจปรับตัวอยู่ในช่วง 3,100-3,300 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายของสหรัฐฯ อาจกระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือทองคำมากขึ้น

“เราเชื่อว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะยังคงซื้อทองคำในระดับสูงกว่าช่วงก่อนปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่สหรัฐฯ คว่ำบาตรธนาคารกลางรัสเซีย และเราเชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น แม้หลังจากมีการทำข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัสเซีย-ยูเครนก็ตาม” โกลด์แมน แซคส์ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มี.ค. 68)

Tags: , , ,
Back to Top