
นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ป อิงค์ (Citigroup Inc) คาดการณ์ว่า ราคาทองแดงจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 10,000 ดอลลาร์/ตันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากตลาดทองแดงโลกมีแนวโน้มตึงตัวอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับกรอบเวลาที่สหรัฐฯ จะประกาศใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาทองแดงปรับตัวขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งให้มีการตรวจสอบการนำเข้าทองแดง ซึ่งข่าวดังกล่าวได้กระตุ้นให้มีการเร่งขนทองแดงส่งไปยังสหรัฐฯ ก่อนที่จะมีการเก็บภาษีนำเข้า โดยเมื่อไม่นานมานี้ ราคาทองแดงในตลาดโลหะลอนดอน (LME) พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2567
“เราคิดว่าภาวะตึงตัวของตลาดนอกเขตแดนสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่จนถึงเดือนพ.ค. หรือ มิ.ย.” นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปกล่าว
ทองแดงซึ่งเป็นโลหะอุตสาหกรรมยังคงปรับตัวสูงขึ้นแม้มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันเนื่องมาจากนโยบายการค้าของปธน.ทรัมป์ นอกจากนี้ ราคาทองแดงยังได้แรงหนุนจากภาวะขาดแคลนวัตถุดิบที่รุนแรงขึ้น เนื่องจากอุปสงค์ปรับตัวขึ้นรวดเร็วกว่าการขยายตัวของเหมืองแร่ทั่วโลก
ในวันนี้ ราคาทองแดงปรับตัวขึ้น 0.3% แตะระดับ 9,797 ดอลลาร์/ตัน ณ เวลา 11.14 น. ตามเวลาเซี่ยงไฮ้ ส่งผลให้ราคาทองแดงปรับตัวขึ้นไปแล้วเกือบ 12% ในปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มี.ค. 68)
Tags: ซิตี้กรุ๊ป, ทองแดง, ภาษีนำเข้า, ราคาทองแดง, โดนัลด์ ทรัมป์